เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 4 กันยายน ที่หอประชุมวิสาหกิจชุมชนป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย กล่าวว่า หลังจากฟังการแถลงข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ แต่อีกมุมก็ยังดีที่ได้รู้ว่าบิลลี่เสียชีวิต ได้รู้ว่าอยู่ตรงไหนของแก่งกระจาน ทั้งนี้ การไปพบเขาอยู่ในน้ำแก่งกระจานก็คิดไว้แล้วว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คิดไว้แล้วว่าคนทั้งคนหายไป ไม่ได้ไปเที่ยวป่า ไม่ได้ไปไหน เข้ามาในเมือง เอารถเครื่องลงมาแล้วหายไป จน 5 ปี ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ควรกลับมาได้แล้ว คิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ไม่อยากให้เป็นอย่างที่คิด พอสุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิดไว้
น.ส.พิณนภากล่าวว่า วัตถุหลักฐานที่เห็นทำร้ายจิตใจเรามาก ครอบครัวใคร ใครก็รัก เอาชีวิตไปโดยที่ไม่บอกเหตุผลเลยสักคำว่าทำไมถึงต้องทำกันอย่างนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างนี้ แต่พอได้เห็นข่าวก็รู้สึกว่ามนุษย์เราทำไมถึงโหดเหี้ยมมากขนาดนี้ ทำกันได้ลงคอ ไม่สงสาร ไม่นึกถึงครอบครัวของคนที่เขาจากไป
“ตอนแรกก็ตกใจ แล้วนึกถึงคำพูดของเขาที่เขาสั่งไม่ให้ตามหา ไม่ให้เป็นห่วงเขา แต่อาจจะทำสิ่งที่เขาขอไว้ไม่ได้ (ร้องไห้) คนทั้งคน ทำเหมือนเขาไม่มีความหมาย
“ตลอดเวลา 5 ปีที่ต่อสู้เพื่อบิลลี่ คาดหวังว่าจะเจอเขา อยากจะรู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหนอย่างไร เรียกร้องความยุติธรรม ความเป็นธรรมให้เขาถึงที่สุด จนมาถึงวันนี้ แม้ว่าจะเป็นความจริงที่เราไม่อยากเจอ แต่จะพยายามที่กลับไปต่อสู้ให้บิลลี่จนถึงที่สุด ตอนแรกก็คิดอยู่แล้วว่าบิลลี่จะสูญหายอีกคนหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและหน่วยงานภาครัฐ ถ้าบิลลี่ไปทำงานอย่างอื่นก็คงจะยังมีชีวิตอยู่ แต่พอมาอยู่กับหน่วยงานภาครัฐก็คิดว่ามีบิลลี่ไม่มีชีวิตตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับตัวไปแล้ว” น.ส.พิณนภากล่าว
น.ส.พิณนภากล่าวว่า การที่เราเรียกร้องความยุติธรรมแล้วเราเป็นผู้น้อย ไม่ใช่คนใหญ่คนโต ก็เหมือนว่าเขาไม่เห็นคุณค่าของเราในความรู้สึก เหมือนบิลลี่กระทำความผิด และเขาฆ่าคนที่กระทำความผิด อยากบอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าใจวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง 5 ชนเผ่าพื้นเมือง ให้เข้าใจในด้านสิทธิมนุษยชน ในด้านวิถีชีวิตการทำมาหากินของเขา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยอมรับ และให้เราได้รับสิทธิตามที่สมควรจะได้รับ ไม่ใช่มีอคติต่อกัน มีอคติกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง
“บิลลี่เป็นคนดี ทำดี แต่ไม่ได้ดี น้อยใจที่บนโลกนี้ทำไมคนดีถึงไม่มีที่ให้ยืน ทำไมคนไม่ดีมีที่ให้ยืนอยู่นาน ถ้าบิลลี่ไม่ได้ทำงานนี้ เชื่อว่าความผิดจะไม่เกิด สิ่งที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเหตุการณ์มันโยงมาจากการที่ปู่ถูกเผาบ้าน และบิลลี่ก็เข้าไปช่วยเหลือ” น.ส.พิณนภากล่าว
เมื่อถามว่า ยังมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอยู่หรือไม่ น.ส.พิณนภาเปิดเผยว่า เชื่อมั่นมากขึ้นเล็กน้อยว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสทีได้รับความยุติธรรมบ้าง
เมื่อถามว่า กลัวการจับแพะหรือไม่ น.ส.พิณนภากล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ โดยฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ว่าขอให้ดำเนินกระบวนการ และจับคนผิดที่แท้จริงมาชี้แจงให้ครอบครัวและญาติพี่น้องของบิลบี่ได้รับรู้ถึงเหตุผล และดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่จับแพะ
“อยากฝากไปถึงกระบวนการหรือคนที่ทำบิลลี่ว่า ถ้าครอบครัวญาติพี่น้องเขาเกิดเรื่องแบบนี้บ้างจะคิดอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร ทำไมทำกับบิลลี่ได้ถึงขนาดนี้ บิลลี่ไปทำอะไรผิด เขาถึงเอาชีวิตบิลลี่ไป จิตใจเขาไม่ใช่มนุษย์แล้วใช่ไหม ถึงทำได้ลงคอ” น.ส.พิณนภากล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ