นายกฯ เปิดประชุมประจำปีสภาพัฒน์ ยันถนนประเทศไทยดีที่สุดในอาเซียน ฉะสื่อเสนอแต่ด้านลบ ต้องมีจรรยาบรรณ เสนอ 2 ด้านให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหน ย้ำผู้บริหารต้องลงพื้นที่ อย่านั่งหอคอยเอาสบาย เซ็นหนังสืออย่างเดียว สั่งศึกษาย้ายเมืองหลวงหรือจะขยายออกรอบนอก แก้กรุงเทพแออัด ยันคนจนไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่จนอยู่แล้วมาลงทะเบียนไม่ทัน จดทะเบียนใหม่อาจเพิ่มเป็น 30-40 ล้าน
(18 ก.ย.) ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2562 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่าหลักการทำงานฝ่ายปฏิบัติจะต้องตอบประชาชนให้ได้ ไม่ใช่นายกฯ ตอบคนเดียว ต้องบอกประชาชนว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ ถ้าไม่พูดความขัดแย้งก็จะเกิดสูง แล้วถ้านายกฯ ไปพูดก็จะหนักและแรง วันนี้ลองไปเปิดดูโทรทัศน์ หรือใครไปต่างประเทศลองดู ถนนประเทศไทยดีที่สุดในอาเซียน ซึ่งเราจะต้องพัฒนาถนนในท้องถิ่นที่ชำรุดต่อไป มีหลายแสนกิโลเมตร ต้องทำไปซ่อมไป ทุกประเทศก็เป็นแบบนี้ แต่ถ้านำเสนอกันไปทุกวันก็จะเข้าใจว่าเป็นแบบนั้นทั้งประเทศ เท่ากับเป็นสร้างความเข้าใจที่บิดเบือนออกไป การนำเสนอตนไม่ว่า แต่ต้องนำเสนอสิ่งดีๆ ด้วย อย่างที่บอกคือต้องมีจรรยาบรรณ นำเสนอ 2 ด้านเสมอทั้งดีและไม่ดี เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหน ตอนนี้ทุกคนมองแต่ภาพแย่ๆ มันก็แย่ตามไปหมด แล้วคนอื่นจะเข้าใจว่าดีได้อย่างไร ตนไม่รู้เหมือนกัน
“ก็แล้วแต่ท่านจะรักประเทศหรือไม่ก็เรื่องของท่าน แต่ผมคิดว่าผมรัก และรักด้วยใจของผม ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็คิดเหมือนกัน มีบางคนเท่านั้นเอง ผมไม่ได้ว่าใคร” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ผู้บริหารต้องไม่นั่งอยู่บนหอคอยอย่างเดียว วันนี้อยากรู้ว่าผู้บังคับบัญชาลงไปในพื้นที่แค่ไหน อย่ามัวเซ็นหนังสืออย่างเดียว ต้องอ่านว่าสาระเป็นอย่างไร กฎหมายเป็นอย่างไร ถึงจะเซ็นได้อย่างถูกต้อง การเป็นผู้บังคับบัญชาคน จะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเพราะมีความเสี่ยงสูง ไม่ใช่สบายมากขึ้น คนก็อยากเป็นกันหมด นั่นคือหลักการการเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ตนขอสั่งวันนี้เลย
นายกฯ ยังได้กล่าวอีกว่า ในกรุงเทพฯ สถานที่ต่างๆ ยังอยู่ในที่เดิม ทำอย่างไรให้ขยายไปรอบนอกบ้าง จะย้ายเมืองหลวงอย่างเขาไหม ก็ต้องไปคิดมา จะย้ายไปที่ไหน ใช้งบประมาณอย่างไร หรือจะขยายรอบกรุงเทพฯ ให้กว้างขึ้น จะได้เข้าพื้นที่ใจกลางเมืองให้น้อยลง เพราะวันนี้การจราจรมันติดเพราะอะไรมีสาเหตุหมด ที่สำคัญคนใจร้อน ระบบไม่พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรลงมาแก้ปัญหาก็โดนด่าว่ารถติดมากกว่าเดิม ทำให้ไม่มีใครอยากทำงาน รัฐต้องแก้ปัญหาตรงนี้ วางระยะเวลาให้ถูกว่ากรุงเทพฯ ควรเป็นอย่างไร รัฐบาลก่อนไม่เคยทำได้เพราะเกิดความขัดแย้ง ประชาชนไม่ยอม ดังนั้น การสร้างความรับรู้กับประชาชนจึงจำเป็นให้เกิดความพอใจ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราจะต้องหากลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาให้เจอว่าประชาชนต้องการอะไร ต้องตัดเสื้อเฉพาะตัวให้เขา มีปัญหาตรงไหนแก้ตรงนั้น จะได้เป็นกลุ่มที่น้อยลง ดูง่ายๆ จากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยมีจำนวน 14.6 ล้านคน ซึ่งจริงๆ มีมากกว่านี้ ไม่ใช่เพราะคนจนมากขึ้น แต่เขาจนอยู่แล้วแต่ขึ้นบัญชีไม่ทัน ซึ่งก็จะเปิดลงทะเบียนเรื่อยๆ เปิดไปเปิดมาจะมากกว่านี้ 30-40 ล้านคนก็ยังไม่รู้ แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมดูแลคนเหล่านี้ ไม่ใช่ไม่ดูแลเลย ภาษีที่จัดเก็บเพื่อนำมาสร้างโอกาส ความเท่าเทียมให้เขาแข็งแรงขึ้น แต่อย่าบอกว่าเดี๋ยวรวยๆ มันรวยไม่ได้หรอก ต้องดูว่าต้นทุนตัวเองมีเท่านี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ