วันนี้มีชาวบ้านชุมชนพนม1 ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ร้องเรียนมายังทีมข่าวเวิร์คพอยท์ หลังมีผู้คนอ้างว่าเป็นตัวแทนผู้นำชุมชน มีพฤติกรรมเก็บค่าหัวคิวคนละ 500 บาท เป็นค่าเดินเอกสารในการรับเงินบริจาคของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
วันนี้ (22 ก.ย.62) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ เดินทางไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วมภายในโบสถ์โรมัน ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และได้พบกับนางประนอม สายยนต์ หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกคนแอบอ้างมาเรียกเก็บค่าหัวคิว เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่าเมื่อหลายวันก่อนมีคนกลุ่มหนึ่งมาหาตนและชาวบ้านคนอื่นๆ ว่าเป็นตัวแทนผู้นำชุมชน ทำหน้าที่จัดเก็บรายชื่อและเอกสารเพื่อไปส่งไปให้ทีมงานของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ แต่ตนเองไม่หลงเชื่อ และได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับคนในชุมชนและผู้นำ จนพบว่าบุคคลคนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอรับงานบริจาคน้ำท่วมเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ขณะที่ นางวรรณี สุขวุฒิยา ผู้นำชุมชนพนม 1 ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาแอบอ้างจริง โดยได้เข้ามาทำทีเจรจากับตนเองว่าจะขอมาช่วยรวบรวมเอกสารให้ แต่มีค่าเดินเรื่องคนละ 500 บาท ตนเองเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง จึงมีการห้ามปรามว่าอย่าทำพฤติกรรมดังกล่าว เพราะจะทำให้ชุมชนเสื่อมเสียชื่อเสียง และสร้างความวุ่นวายให้กับทีมงานคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ทำให้เวลานี้ตนเองต้องมีการประกาศให้ชาวบ้านกว่า 600 รายภายใน 3 ชุมชน ที่ตนทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อนั้น อย่าหลงชื่อมิจฉาชีพ และให้มาสอบถามกับตัวเองโดยตรง
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าคนที่มาแอบอ้างนี้เป็นใคร นางวรรณีบอกแต่เพียงว่าเป็นคนในชุมชนนี่แหละ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะต้องอาศัยอยู่ร่วมกันต่อไป
ด้านนายโบ๊ท วิบูลย์นันท์ อาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญู หนึ่งในทีมงานของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ฝากไปถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่มาหาผลประโยชน์ หลอกลวงชาวบ้าน ว่าให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากวันนี้นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เชิญทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายมาจากกรุงเทพฯ เพื่อหาแนวทางในการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากพบที่ผ่านมาได้รับข้อมูลจากชาวบ้านในหลายชุมชนว่าถูกเก็บหัวคิวรับเงินบริจาค
ซึ่งหลังจากนี้หากพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีผู้ใดเรียกเก็บค่าหัวคิวเงินบริจาคน้ำท่วมกับชาวบ้าน จะดำเนินการฟ้องดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทันที และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ เนื่องจากทีมงานทุกคนไม่มีการเรียกเก็บหัวคิวแต่อย่างใด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ