เมื่อวันที 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดโทษวินัยร้ายแรง กรณีการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ โดยชี้มูลความผิดตั้งแต่อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น จำนวน 119 คน ซึ่งต่อมากรมการปกครอง ได้ลงโทษไล่ออกข้าราชการที่ถูกชี้มูลทั้งหมด จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกชี้มูล 89 ราย ร่วมกันฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลปกครองได้สั่งลดโทษ จากไล่ออกเป็นปลดออก และต่อมาศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งเยี่ยวยาผู้ฟ้อง ให้กับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิมที่ถูกไล่ออก
ล่าสุด ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ ฟบ.8/2562 กรณีที่กลุ่มนักเรียนหลักสูตรนายอำเภอ(อน.) รุ่น 68-70 ในปีงบประมาณ 2552 ร่วมฟ้องจำนวน 89 ราย ฟ้องคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ป.ป.ช. ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกฟ้องที่ 3 อธิบดีกรมการปกครอง ผู้ถูกฟ้องที่ 4 อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ถูกฟ้องที่ 5 และ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ถูกฟ้องที่ 6
โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า ป.ป.ช. ไม่สามารถชี้มูลความผิดวินัย และกำหนดโทษไล่ออกได้ เพราะป.ป.ช. มีหน้าที่เพียงชี้มูลความผิดวินัยที่จะต้องมีการลงโทษทางวินัยต่อไป ดังนั้นข้ออ้างของจำเลยที่ 2 จึงไม่อาจจะรับฟังได้
ส่วนผู้ถูกฟ้องที่ 3-6 ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการและกระบวนการสอบสวนวินัย แต่กลับอาศัยรายงาน เอกสาร และความเห็นของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แล้วพิจารณามีคำสั่งลงโทษไล่ออกผู้ฟ้องคดีทั้ง 89 คน ออกจากราชการ ตามความเห็นของผู้ถูกร้องที่ 2 จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ศาลปกครองสูงสุดยังสั่งให้คืนสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ฟ้องทั้ง 89 ราย เสมือนว่าผู้ฟ้องคดี ไม่เคยถูกปลดจากราชการ ทั้งนี้สำหรับการร้องคืนสิทธิการเป็นนายอำเภอนั้น ศาลปกครองสูงสุดได้ยกคำร้อง เพราะศาลได้สั่งคืนสิทธิ์ทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดีแล้ว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ