ความสวยงามของผิวและรูปร่าง เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญอย่างมาก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปัจจุบันธุรกิจความงามจึงมาแรง ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดไม่แพ้ร้านสะดวกซื้อ มีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ทั้งคอร์สในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไปจนกระทั่งราคาที่จับต้องได้ที่ละลานตามาก จนไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี
ใช่ว่าสุขลักษณะของสถานประกอบการความงามเท่านั้นที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนรับบริการ หลังการรับบริการแล้ว ลูกค้าก็ต้องระวังตัวให้มากเช่นกัน ดังเช่นอุทาหรณ์ของคุณ Ananya Sommai ที่ได้รับผลกระทบจากคลินิกที่รักษาสิวให้เธอ โดยคลินิกดังกล่าว แจ้งความเอาผิดเธอฐานหมิ่นประมาท เพราะเธอเข้าไปรีวิวข้อเสียของคลินิกนี้ ทั้งที่ไม่มีคำหยาบคายใด ๆ เลย!
เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ยอมความกันได้ หรือจบเพียงแค่สถานีตำรวจเท่านั้น แต่เธอใช้เวลากว่า 6 ปีในการต่อสู้ โดยเดินทางไปยังกรมสรรพากร, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานอัยการสูงสุด, องค์การอาหารและยา, สคบ, และอื่น ๆ “ด้วยตนเอง ไม่จ้างทนาย” จนในที่สุด “ยกฟ้องแล้ว”
รีวิว อดทนสู้คดีมา 6 ปี โดยไม่จ้างทนาย ตอนนี้ยกฟ้องแล้ว และเกียมเอาคืนเต็มกำลัง
ใครมีคำแนะนำ หรือทนายแนะนำ โปรด inbox จะขอบคุณมากค่ะ
ตั้งแต่ปี 2556 จนถึง 2562 เรา…
- ไปอัยการไม่ต่ำกว่า 40 กว่าครั้ง
- ไปสถานีตำรวจไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง
- ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 ครั้ง
- ไปสำนักงานอัยการสูงสุด 2 ครั้ง
- ไปองค์การอาหารและยา 1 ครั้ง
- ไปสรรพากร 2 ครั้ง
- ไปสคบ. ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง
- ไปศูนย์มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน 1 ครั้ง
- มีอีกมั้ยหว่า นึกไม่ออก
*เกือบทุกที่ไกลบ้านไม่ต่ำกว่า 30 กม. ลากเลือด
เพื่อความปลอดภัย ในโพสต์จะไม่เมนชั่นเลยนะคะว่าร้านไหน แถวไหน และขอยาดไม่ต้อง inbox ถามนะคะ กลัว 555
เราสู้ด้วยอะไรบ้าง?
- พยานบุคคล 1 คน
- เอกสาร ประมาณ 200 หน้า
- ครอบครัวที่ซัพพอร์ตทุกอย่าง
- Google สำคัญมาก
คดีที่โดนคือ หมิ่นประมาท และพรบ.คอมฯ (ต้องระวังนะ เอาผิดกันง่ายมาก)
เริ่มจากสมัยเรียนปี 3 ปี 56 อะ เราไปซื้อคอร์สคลินิกรักษาสิวที่นึง คอร์ส 8 หรือ 7 ครั้ง จำไม่ได้ แต่ราคามัน 16,000 บวกค่าสมาชิก 500 ค่าผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ซื้อเพิ่ม รวมๆ ประมาณ 20,000
อย่าเรียกว่าคลินิก ก็คือมีพนักงานทำทรีทเม้นท์ให้ 1 คน ไม่เคยเจอหมอจนจบคอร์ส แต่ทรีทเม้นท์ก็คือดี เราไม่ติดอะไร
จบคอร์สไปประมาณเดือนกว่า วันนึงเราเจอทู้พันทิป มีคนตั้งถามว่าใครเคยไปรักษาสิวที่นี่บ้าง ดีมั้ย
เราก็เข้าไปตอบ ก็คือชื่นชมไป 80% อีก 20 คือติส่วนที่ไม่ชอบจริงๆ ติจริงๆไม่มีคำด่า คำแรง คำสาดเสียเทเสีย แค่บอกว่าไม่ชอบจุดนี้เพราะอะไร
ความชิบหายเริ่มต้นตอนนี้
ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ มีตำรวจโทรมาหาเรา และอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น และเชิญเราไปรับทราบข้อกล่าวหา ตอนนั้นฝึกงานเอเจนซี่อยู่ จำได้
ช็อค+งง กูผิดจุดไหนวะ
มารู้ตอนหลัง ขอเรียกมันว่ามัน มันตัดคำเอาแค่เฉพาะข้อความที่เราติมันในกระทู้ไปแจ้งความ เฉพาะที่ตินะ ชมอะไรบ้างตัดทิ้งหมดจ้า
ความเหี้ยของมันปรากฏตอนนี้
ตอนแรกมันแจ้งเราข้อหาหมิ่นประมาท ข้อหาเดียว
อันนี้ยอมความกันได้ ยอมด้วยการขอโทษ หรือจ่ายเงิน อะไรก็ว่ากันไป
ความแค้นหลอดที่ 1 เริ่ม
คือเราไม่ใช่คนแรกที่โดน ก่อนหน้าเรามีอีกไม่รู้กี่คน แต่มากกว่า 2 คน และเป็นเคสเดียวกัน แต่เกือบทุกคนยอมจ่ายเงินให้มัน มันจึงถอนแจ้งความ
เราไปรับทราบข้อกล่าวหา และปฏิเสธทุกอย่าง เรารู้เจตนาตัวเองตอนทำ และคิดว่าเราไม่ผิดแน่ๆ จบไม่ได้ก็ไปสู้กันในศาล ไม่ไกล่เกลี่ยอะไรทั้งนั้น
คิดแค่ว่าถ้ามันให้ขอโทษ เรายอมขอโทษ
แต่ถ้าให้จ่ายเงินก็ Let the war begin นาจา เราจะไม่จ่ายแม้แต่บาทเดียว
พอเราไม่ยอม มันทำไงกับเราต่อรู้ม้ะ?
มันแจ้งพรบ.คอมพิวเตอร์เราเพิ่มอีก 1 ข้อหา ซึ่งยอมความไม่ได้ ถ้าเคลียร์ไม่ลงก็ไปถึงศาลอย่างเดียว และมีโอกาสคุก
ตอนนั้นเราอายุ 20 เรียนปี 3 กำลังฝึกงาน เราโดนพิมพ์นิ้ว 10 นิ้วในใบประวัติ เชื่อมั้ย แม่งโคตรเจ็บปวด มากๆๆ และแม่เราก็เครียดมาก
เราน้ำตาคลอตอนตำรวจจับนิ้วเราพิมพ์ทีละนิ้ว คิดแค่ว่า กูผิดอะไรวะ
ตอนกำลังจะพิมพ์ถึงนิ้วสุดท้าย เราก้มหน้าเลย น้ำตาร่วงแหมะ และคิดอย่างเดียวว่า กูจะงัดกับมึงจนกว่าจะถึงวันที่กูเอามึงคืน กูจะไม่ลดละอะไรกับมึงเลยแม้แต่นิดเดียว ก็คือแค้นเว่อวัง
ระหว่างที่มันบี้เรา เราก็หาทางสู้มันกลับ ทุกทางเท่าที่จะนึกออก
ยกที่1
นึกออกอย่างแรกเลย มึงทำธุรกิจ มึงกลัวสรรพกรแน่ๆ เราไปสรรพากรที่แรก เอ้ยไปแจ้งความก่อน แล้วเอาใบแจ้งความไปฟ้องสรรพากรอะเอาง่ายๆ มันจะถูกผิดมายังไงไม่รู้ แต่ราคาคอร์สมึงขนาดนี้ ไม่มีใบเสร็จ สรรพากรขุดยับแน่
เดาว่าโดนหนักอยู่ เพราะแม่งเดือดจัดจนมันไปฟ้องสรรพากรให้มาขุดเรากลับอะ โว๊ะ 55
เริ่มมันส์แล้วใช่ม้ะ จริงๆกูว่าคนอย่างมึงต้องเจอกับคนอย่างกูนี่แหละ 5555
นี่แหละ! วิธีหากินของมัน
เท้าความ ร้านนี้มีเพื่อนสนิทแนะนำมา ก่อนไปเราก็หารีวิวหาข้อมูล เออมีแต่คนชมว่ะ
มีแต่คอมเม้นดีๆ ไปจ้าแม่
มาสังเกตตอนหลัง ทุกกระทู้เกี่ยวกับร้านนี้จะเริ่มจากเปิดคำถามว่า รักษาสิวที่นี่ดีมั้ย ที่นี่กับที่นี่ที่ไหนดีกว่ากันประมาณนี้
คอมเม้นที่เข้ามาตอบก็อวยกันไป ดีแบบนั้นแบบนี้ แต่…. มันจะมีคอมเม้นที่ถูกลบไปแทรกอยู่ในทุกทู้ คือน่าจะโดนแบบกู
เราคิดว่า นี่คือวิธีหาเงินของมัน คือค้าความ เอาจนท.รัฐและกฎหมายมาทำงานให้ ตัวมันเองน่าจะมีความรู้กฎหมายพอสมควร ใครมีช่องนิดเดียวมันเล่นยับ
มันเปิดราคาเรียกทีแสนเป็นล้านนะ งงม้ะ สุดท้ายจบที่เท่าไหร่ก็ว่าไป แต่เรียกเกินเบอร์ไว้ก่อน ซึ่งเราเดาว่ามันตั้งกระทู้เอง
เกือบทุกเคสจ่าย เพราะพิมพ์ด่าจริง ก็คือผิดแน่ เท่าที่รู้จากบุคคลที่สามคือ เคยมีคนสู้แบบเรา แต่ครึ่งๆกลางๆ ไปอ่อนแอตอนเรื่องกำลังจะอิรุงตุงนังในศาล
พออ่อนปุ๊ปมันเอาจมเขี้ยว กิตติศัพท์ที่รับรู้มาตลอด คือมันร้าย ร้ายมาก แต่ร้ายโดยใช้กฎหมาย ร้ายบนกติกา ถ้าจะงัดกับมันคืออ่อนแอไม่ได้ โง่ๆเด๋อๆไม่ได้ ระวังคำพูดคำเขียนทุกจุด
ตอนนั้นเราก็คิดว่าหรือจ่ายให้จบดี แต่กูก็ไม่ผิดนะ ลังเล แต่แม่ไม่ให้ยอมแพ้
จริงๆ ผู้อยู่เบื้องหลังและช่วยเราทุกอย่างคือแม่ นะ แม่บอกแต่ว่าถ้าเกิดวันนึงแม่ตาย ก็ห้ามยอมแพ้ ให้สู้กับมันจนกว่าจะชนะ 5555
แม่คือคนที่ขับรถพาเราไปทุกที่ที่ต้องไป แบบไม่อิดออด ทีมเวิร์คมาก
ตอน อะไรของทนายวะ?
เคยจะจ้างทนายนะ ตรงนี้สั้นๆเลย คุย primary ทุกอย่างที่ต้องรับรู้กันไปหมดแล้วกับทนาย
พาทนายไปสน. ระหว่างทางกลับบ้าน ทนายแนะนำให้ใต้โต๊ะอัยการ ผมมีอัยการที่รู้จัก ตัวผมขอสามหมื่น WTF!!
ผิดผีมาก ไม่ใช่ละ จากที่ไม่ผิด กูยิ่งใกล้คุกเพราะมึงนี่แหละคุณทนาย กระจอกนิหว่า บายยยยย
กลับมาบ้านเราเสิร์ชหาทนายและโทรปรึกษาไปเรื่อย ถามพวกทนายอาสาบ้าง ปรึกษาพี่ๆคนรู้จักว่าควรทำไงต่อ จนเราพอจะรู้ step ต่อไปคร่าวๆ ว่าควรทำไง
มันเป็นหลายวันที่เราดิ่งกับเอกสารที่ค่อยๆงอกมาระหว่างสู้คดี ทั้งเอกสารจากตำรวจและจากเรา เครียดเหนื่อยมาก แต่ก็อยากเอาชนะ
ระหว่างนั้นก็ตรัสรู้ว่าใน Google มีทุกอย่างจริงๆ และเราว่าเราสู้เองได้ ไม่ใช้ทนายแล้ว ถ้าขึ้นศาลค่อยใช้ละกัน
ทุกอย่างเป็นไปอย่างลูกทุ่ง คือใช้ Google บวกกับปรึกษาคนที่รู้กฎหมาย
ตอนต่อไป สคบ. สุดแค้นแสนรัก (ตอนนี้เจ็บมาก) เดี๋ยวมาต่อ
ก่อนจะเข้าสู่การบึ่งไปสคบ.เพื่อเอาผิดมัน ขอใส่ดีเทลจุดนี้ก่อน เป็นตอนย่อย
ตอน ชมได้แต่ห้ามติ
จำได้นะ ที่เราบอกว่ามันตัดทอนเฉพาะประโยคที่เราติไปแจ้งความ ไอที่ชื่นชมไม่เอาไปด้วย จากนั้นมันแจ้งพันทิปลบทู้ทิ้ง
หมายความว่าเราจะไม่มีหลักฐานหลงเหลือเลยว่ามันคือการติชมโดยสุจริต และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ตำรวจเข้าใจว่าเรา blame มันล้วนๆ
เรากู้กระทู้ขึ้นมาได้จ้ะแม่ นี่คือหลักฐานหนาปึ้กที่เราวิ่งเอาไปให้ตำรวจอ่าน แล้วเราถามตำรวจว่าอ่านทั้งหมดแล้ว พี่คิดว่าหนูหมิ่นประมาณเค้ายังไง??
แน่นอนตำรวจน่าจะต้องเรียกสอบทางมันเพิ่ม เพราะหลักฐานตรงนี้ตำรวจไม่เคยเห็นกระทู้ทั้งหมดมาก่อน เห็นแค่ข้อความที่มันตัดไป
จริงไม่จริงไม่รู้ มีบุคคลที่สามบอกเราว่าตำรวจก็ถามมันว่าเค้ามีทั้งชมทั้งติไม่ใช่หรอ
มันพูดว่า “ชมได้แต่ห้ามติ”
มันไม่ลดราวาศอก มันกลับบ้านไปหาหลักฐานเอาผิดเราเพิ่ม เดี๋ยวเล่าว่ามันแจ้งความเราเพิ่มว่าอะไร ประมาณ 7 ประเด็น
ขอไปที่ฝ่ายเราที่เกียมลุย สคบ. ก่อน
ตอน สคบ.สุดแค้นแสนรัก
เราคุ้ยทุกอย่างจากมันเท่าที่จะคุ้ยได้
เริ่มจากเว็บไซต์มัน มี Tag line หน้าเว็บว่า “สิวหายวับไปกับตา!” สิวเหี้ยไรจะหายวับไปกับตา โฆษณาเกินจริง กูจะแจ้งสคบ.
เราไปหน้าร้านมันและถ่ายรูปหน้าร้าน ซึ่งมีชื่อแพทย์ติดอยู่ ประมาณว่าที่ปรึกษา
เราเอาชื่อแพทย์ไปค้น เออเป็นแพทย์จริงๆ ไม่หลอก แต่กูไม่เคยเจอแพทย์มึงเลยสักครั้ง แอบอ้างชื่อแพทย์ กูแจ้ง ซึ่งมันมีแพทย์จริง แต่ไม่ได้ให้ลูกค้าทุกคนเจอตามที่โฆษณา
หน้าร้านมันไม่ติดราคาอะไรเลย โทรถามราคาก็ไม่บอก ต้องไปหามันเท่านั้น มันเขียนราคาคอร์สใส่กระดาษโน้ตเล็กๆ ยื่นให้เราอ่าน เสร็จมันเก็บ
คือไม่ชอบมาพากลมาก ทำไมเราไม่เอะใจเลยวะ โง่สุดๆ แต่เพื่อนสนิทมาก็ไม่มีปัญหาไร เราก็ไม่คิดไรเยอะ ตอนนั้นก็เด็กโง่มาก
เรารวบรวมหลักฐานวิ่งไปแจ้งกับสคบ.ที่แจ้งวัฒนะ ไปด้วยความหวังเต็มพลัง สคบ.รับเรื่องไว้ ให้เราเขียนหนังสือร้องเรียนและนัดเราใหม่อีกรอบ
เราไปตามนัดคุยกับ จนท. ซึ่งให้เราเขียนหนังสือร้องเรียน เราเขียนไปวันนั้นและยื่นให้จนท.รับเรื่อง แจ้งว่าขั้นตอนต่อไปเค้าจะประสานกับคู่กรณี
โดยจะเริ่มจากไกล่เกลี่ยกันก่อน หมายความว่าต้องเจอกัน มาเด้!!! ตอนนั้นก็คิดว่าอยากเจอหน้า แต่ไม่ไกล่อะไรทั้งนั้น เอาผิดมันให้ทะลุทะลวงเท่าที่สคบ.จะทำได้
ด๋อยจ้า โดนดองเรื่องนาน สคบ.ไม่นัดเราตามที่สัญญาว่าจะโทรมานัด เราโทรตามไม่ได้คำตอบ นี่ยังมีชื่อเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องอยู่เลยนะ
เราวิ่งไปแจ้งวัฒนะอีกเพื่อตามเรื่อง ได้คำตอบในเชิงว่า สคบ.ดำเนินการแล้ว ในความรู้สึกส่วนตัว เราคิดว่าสคบ.กลัวเกรงบางอย่าง
และมารู้ทีหลังว่า มันเคยฟ้องเอาผิดจนท.สคบ.
แซ่บมาก กูจะล้างแค้นแทนทุกคนเองเพื่อน
ขอไม่ลงดีเทล แต่เห็นใจจนท.รัฐทุกฝ่ายมากที่ต้องมาทำงานให้คนแบบนี้และยังโดนมันเล่นงานอีก
เราโกรธสคบ.มากนะ โกรธมาก ทั้งที่เราเป็นผู้เสียหาย เราเป็นลูกค้า และเค้าก็เห็นว่าเราสู้ เราเอาขนาดไหนทำไมไม่ช่วยเรา
แต่อีกใจคือ เห็นใจถ้าจนท.คนนี้ ถ้าต้องมาเจอมันเล่น เดือดร้อนไม่เป็นอันทำงานแน่
เอาวะ กูจะล้างแค้นแทนทุกคนเองเพื่อน
มันชอบมีเรื่องใช่ม้ะ จัดไป
เราวิ่งไปกระทรวงสาธารณสุข
ไปพร้อม product มันตัวนึงของมัน ที่ไม่มีฉลาก แต่ขายให้เรา 450
เราวิ่งไปศูนย์ปราบสถานพยาบาลเถื่อน มันใช้คำว่ารักษาสิวมาโฆษณาได้ไง เราไม่เคยเจอแพทย์
มันโกรธเรามากกกกกกกกกกก จนแจ้งข้อหาเราเพิ่มเพียบ กูสมน้ำหน้า สมน้ำหน้าทั้งมันและตัวเอง
ตอน ร้านครีมในเน็ต
ร้านครีมในเน็ตเกี่ยวข้องกับมันยังไง?
เริ่ม
ในกระทู้เรามีติว่า product ที่มันเอามาใช้กับลูกค้ายังไม่ค่อยสมราคา เพราะมีขายทั่วไปในเน็ต ซึ่งมันก็จริงไง
เราไปเจอร้านนึงในเน็ตโดยบังเอิญ เค้าขายมาส์กที่มีลักษณะคล้ายของที่มันเอามาทำทรีทเมนท์ให้ลูกค้า อันนี้เจอก่อนเกิดเรื่องนะ
เจอยังไงจำไม่ได้ แต่มันบังเอิญมากๆ
เราซื้อ product จากร้านครีมในเน็ตนั่น มาลอง 1 อย่าง
ซื้อตัวที่คิดว่าคล้ายกับ product ของมัน โป๊ะเช๊ะ ใช่จ้ะ มันคือ product เดียวกันกับที่มันเอามาทำทรีทเม้นให้เรา
Packaging ใช่ เนื้อในเหมือน เพียงแต่ของที่วางในร้านมันแกะฉลากออกหมด
เราช็อคนะ แต่ก็ช่างมัน ผ่านไปแล้ว หน้าเราก็ใสขึ้น แล้วจะยังไง
จนมาตอนเกิดเรื่องนี่แหละ เรากลับซื้อครีมจากร้านเดิมต่ออีกให้ครบ 5,000 เพื่อจะเป็น VIP Member
ซื้อมาทั้งหมด 6 ตัว ตัวที่คิดว่าใช่กับครีมที่วางในร้านมัน
VIP จะสามารถคุยปรึกษาเรื่องผิวกับเจ้าของแบรนด์ได้โดยตรง และจะได้แคตตาล็อคผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่เค้ามี (หลักฐานสำคัญ เราสำเนาทุกหน้าไปให้ตำรวจ)
เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าของร้านครีมฟัง
มันยืนยันว่าครีมที่มันใช้มันสั่งผลิตเอง ส่วนเจ้าของร้านครีมยืนยันว่าครีมทุกสูตรมีลิขสิทธิ์ของเค้า คนอื่นสั่งผลิตเองไม่ได้
ใครจะผลิตเราไม่รู้ ประเด็นที่เราจะเอาคือ ของเค้าขายหลักร้อยในเน็ต มันเอามาทำหน้าลูกค้าเก็บตังค์เค้าเป็นหมื่น ค้ากำไรเกินควร กูแจ้งสคบ.
แจ้ง สคบ.แล้วผลเป็นยังไง กลับไปอ่านตอนที่แล้ว เรา follow ทุกอย่างที่ลุยไปเป็นระยะ เราค่อยๆ เห็นความเปลี่ยนแปลง ทุกจุดที่เราแจ้งมีการแก้ไขให้ถูกตามกฎเกณฑ์ ทั้งหน้าร้าน และเว็บไซต์
คาดว่ามันก็คงโดนบ้างแล้ว แต่ไม่รู้โดนไรบ้าง
ตอนย่อย
ตอน คุณP จนท.ตัวเล็กที่แสนโชคร้าย
คุณP เนี่ย ถ้าจำไม่ผิดเป็นจนท.รัฐคนหนึ่ง ที่จะไปเล่นมันแต่โดนมันเล่นกลับซะเละ และเค้าหลุดคดีมาได้แล้วเหมือนเรา
เราทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คอนแทค คุณP
เรามีโอกาสได้คุยกับคุณ P เล่าเรื่องให้เค้าฟัง เค้าก็แลกเปลี่ยนสิ่งที่เราต้องรู้และต้องระวังกลับมา
คุณ P น่าเห็นใจมาก ขนาดเค้าทำตามหน้าที่
มันยิ่งทำให้เราโกรธ และอยากจะเอาชนะ คือมึงรังแกเค้าไปทั่วเลยใช่มั้ย
อ่านมันส์แล้ว ก็ปกป้องกันด้วยนะคะ 55
ศัตรูช่างร้ายกาจและฉลาด รู้กฎหมาย ทุกตอนจะไม่มีเมนชั่นนะว่าร้านไหน แถวไหน ใคร inbox มาถาม ขอยาดเมินนะคะเพื่อนๆ
ตอน แลกกันคนละหมัด
ระยะเวลาความตุงนังนี้ประมาณ 6 ปี นะ
ที่หนักสุดจะเป็น 2 ปีแรก เพราะเป็นปีแห่งการรวบรวมหลักฐานเพื่อโต้กันไปมา
น็อคคาเอกสารกันไปข้างนึง ตาแตก
ฟีลการต่อสู้ มันจะไม่ได้ดุเดือดเหมือนตอนเล่า
ทุกครั้งที่ได้โจทย์ใหม่มาว่าต้องโดนอะไรบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง อย่างแรกคือเครียดๆด่าๆไปเลยวันเต็มๆ แล้วค่อยตั้งสติ
เราต้องเอาอะไรมาสู้กับข้อกล่าวหานี้วะ?
เรื่องนี้ถามใครดี? จะใช้คีย์เวิร์ดอะไร Google ดี? เราจะเล่นมันเรื่องอะไรได้อีก
และต้องระวังเรื่องกล่าวพาดพิงบุคคลที่สามด้วย
มันเครียดนั่นแหละ แต่ทำไงได้ก็ไม่อยากจ้างทนายเอง เรสไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เหนื่อยและยุ่งยาก โชคดีที่คดีมันไม่ได้ซับซ้อนอะไร
เราสู้มันหัวหดก้นขวิดจริง
ในขณะเดียวกัน มันก็พยายามแจ้งข้อหาเราเพิ่ม ระหว่างที่เราไปกระทรวงนั่นนี่เพื่อเล่นมันกลับ ความชิบหายก็ตามก้นเราอยู่เหมือนกัน
แต่ที่มันแจ้งความเพิ่มก็จะวนเวียนอยู่ในประเด็นเดิม ๆ ที่มันแกะจากข้อความที่เราคอมเม้นติชมนั่นแหละ
เรื่องที่แจ้งเราเพิ่มก็ติ๊งต๊องทั้งนั้น
เช่น อันนี้พีคสุด
เราพิมพ์ชื่อผลิตภัณฑ์มันผิด คือเป็นชื่อภาษาอังกฤษยาว แล้วเราพิมพ์ตกไป 1 ตัวอักษร
เราโดนข้อหา นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เอาซี่~~~ ให้มันมา และช่วยมาพร้อมกันทีเดียว จะได้ไปสน.ทีเดียว
ไม่สงสัยนะว่าทำไมตำรวจถึงรับแจ้งความกับเรื่องแบบนี้ เค้าก็ทำตามหน้าที่แหละ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐสามารถโดนร้องเรียนได้ถ้าไม่ทำ เราว่ามันรู้และตำรวจก็รู้
วิ่งไปสน.แต่ละทีไกลมาก เราก็หนักอยู่
ช่วงนั้นกำลังจะฝึกงานเทอมสุดท้าย
อีก 5 วันจะฝึกแล้ว เรายังไม่ได้ที่ฝึกงานเลย เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องนี้ ขอบ่นหน่อย
ขอบคุณอาจารย์แดง และพี่หนุ่มที่ช่วยเรื่องที่ฝึกงานหนูค่ะ
มันเองก็สร้างความยุ่งยากให้เรามากโข
แต่เราคิดว่านี่คือกับดัก มันจะทำให้เราถอดใจจากความยุ่งยาก ความเสียเวลา แล้วหาทางเคลียร์เงิน แกใช้ไม้นี้กับคนอื่นได้ แต่อย่ามาใช้กับฉัน
จนเราเรียนจบ ช่วงหางานก็ยังต้องวุ่นกับเรื่องนี้อยู่ ตอนแรกที่ตัดสินใจสู้เราไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ มีแพลนว่าเรียนจบจะทำอะไรไปไหนยาวๆ พังหมดจ้า
มันเองก็คงคาดไม่ถึง ว่าเราจะลากมาถึงขนาดนี้ เพราะเคสก่อนหน้า ก็ไม่มีใครโรคจิตแบบเรา
จริงๆน่าจะเป็นเพราะ เราไม่มีเจตนาจะหมิ่นประมาทแต่แรก เลยต้องสอบสวนกันไปมายับเยิน เพราะความผิดมันไม่ชัด ตรงนี้เลยกินเวลาและสร้างความยุ่งยากให้ทั้งเราและมัน
ง่ายๆ พรุนทั้งคู่ ตำรวจปวดหัวไม่แพ้กัน คดีสำคัญเค้าเยอะแยะ
แต่เราพรุนกว่า เพราะเป็นคนโดนฟ้อง ต่อไปเป็นที่เรื่องเข้าสู่อัยการ
ตอน “4 ปีที่ไปอัยการ”
ขอไม่ลงดีเทลที่เป็นสาระมากนะคะเพราะจะงงเอา รวบรัดคือ
ตำรวจ รวบรวมหลักฐานและส่งเรื่องให้อัยการพิจารณา ระหว่างนี้อัยการก็มีส่งเรื่องไปให้ตำรวจสั่งสอบสวนเพิ่มอีก
ตรงนี้เหนื่อยมาก หมายความว่าต้องหาหลักฐานมาเพิ่มอีก ทั้งเราและมัน
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราต้องไปอัยการ เดือนละ 1 ครั้งเพื่อรายงานตัว สองปีหลังเหลือ 2 เดือน/ครั้ง ต้องไปด้วยตัวเองทุกครั้ง
หมายความว่าเราอยู่นอกประเทศเกิน 1-2 เดือนไม่ได้ เพราะต้องมารายงานตัวที่อัยการต่อเนื่องไม่ต้องไปไหนแล้วจ้า นั่นมันฤดูไปเมืองนอกของเด็กมหา’ลัย เลยนะ สูญสิ้นความฝันมาก
สองปีหลังจากเรื่องมาอยู่ที่อัยการ อัยการสั่งไม่ฟ้องเรา
เป็นช่วงวัดใจ ว่าเราจะหลุดมั้ย
ถ้ามันไม่ไปแย้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จบ เรารอด
อีเหี้ย แม่งไปแย้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แถมมันให้ข้อมูลประมาณว่าเราเป็นคู่แข่งและต้องการดิสเครดิตมัน แหม่ยิ่งนานยิ่งไหลไปเรื่อย มันจะงัดเราลงให้ได้อะ
ก็ต้องมาลุ้นว่าสนช.ว่าไง พอถึงจุดนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้วตามเรื่องไม่ได้เพราะเรื่องไม่ได้อยู่ที่อัยการทำได้แค่ไปรายงานตัวไม่ให้ขาด
ประมาณ1ปีก่อนจบเรื่อง เรารู้ว่า สนช. ส่งเรื่องไปให้อัยการสูงสุดแล้ว นั่นคือขั้นตอนชี้ขาด ว่าเราจะหลุดหรือโดนฟ้อง ถ้าโดนฟ้องก็เตรียมเงินประกัน
ตอนนั้นก็คิดนิดๆว่า อยากให้ขึ้นศาลไปเลยรู้ดำรู้แดง ถ้าติดคุกป่านนี้กูออกมานานแล้ว แค่คิดนิดๆ
เราไปตามเรื่องเองที่ อัยการสูงสุด 2 รอบ รออีกประมาณปีนึง ผลจึงออกมาว่าอัยการสูงสุดยกฟ้อง จบ 6 ปี ที่เราสู้กับมันมา
เราเชื่อว่าช่วง 6 ปีมี่ผ่าน ต้องมีคนอื่นที่โดนเคสเดียวกับเราอีก ถ้าคุณอ่านเจอและตอนนี้คุณยังสู้กับมันอยู่ ก็ขอให้เรื่องเราเป็น fuel ให้คุณไม่ยอมแพ้ สู้กับมันไปตามกติกาให้ถึงที่สุด
เราไม่รู้ว่ามันมีอิทธิพลอะไรมั้ย แต่เท่าที่สู้มา มันก็เล่นไปตามกฏหมายนั่นแหละ ช่วงแรกก็กลัว โดนยิงมั้ยวะ แต่มันไม่ใช่คนโง่ ไม่น่าพาตัวเองไปอยู่จุดนั้น
ตอน “ขอพักก่อนนะ”
เรื่องเพิ่งจบไปเมื่อไม่กี่เดือน ขอพักแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวจะดูว่าจะทำยังไงต่อดี ที่แน่ๆมึงละเมิดกูไป 6 ปี
วัยมหาลัยเพื่อนเค้าเครียดเรื่องสอบ เรื่องแฟน กูเครียดเรื่องคดี มันใช่หรอวะ หมดแล้วความสดใส
ค่าเดินทางและเวลาที่เสียไปทั้งหมด
คือถ้าจะฟ้องเป็นเงินไม่รู้ว่าจะต้องคิดยังไง
ตอนนี้มืดบอดและขี้เกียจ Google แล้ว
คนใกล้ชิดบางคนอยากให้จบ
บางคนอยากให้เอาคืน ตอนนี้ยังลังเล
พอผ่านมา 6 ปีความคิดมันไม่เหมือนเดิม
ตอนนั้นก็รอวันที่จะชนะ เพื่อจะเอาคืน
พอผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ดันคิดว่า ความรู้สึกที่ได้จากการเอาคืน ชั่งกับสิ่งที่จะต้องเสีย เงิน สุขภาพจิต เวลา ครอบครัวต้องเดือดร้อนไปด้วย จะคุ้มมั้ย
และต้องชนะเท่านั้นด้วยนะ ไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำไปทำไม
เอางี้ ใครมีทนายที่เชี่ยวชาญคดีแบบนี้ อยู่ในกรุงเทพฯ แนะนำเข้ามาได้ค่ะ ถ้าคุยแล้วเห็นทางว่าเอามันลงแน่ เราจะสู้อีกรอบ
ก็คือดราม่านิดหน่อยแต่ก็เอานั่นแหละ
ตอนพิเศษ
ดูเคสโง่ๆเป็นตัวอย่างพอ แต่ไม่ต้องเชื่อ
ตอนนี้มีคนทักเข้ามาปรึกษาเรื่องคดีของตัวเองหลายคน
เราคิดว่าวิธีของเรามันไม่ได้ถูกทั้งหมด และไม่อยากแนะนำให้ทำแบบนี้เท่าไหร่ เพราะโอกาสพลาดเยอะ
เราโง่กว่าคู่กรณีค่ะ เราผ่านมาได้เพราะความผิดเราไม่ชัดตั้งแต่แรก ไม่ได้มีเจตนาจะหมิ่นประมาทเขาจริงๆ และเราอดทน และบ้า และมีครอบครัวซัพพอร์ต
แบคกราวด์ของแต่ละคดีมันไม่เหมือนกัน
แบคกราวด์ของคู่กรณีก็ไม่เหมือนกัน
อยากให้ไปปรึกษาคนที่มีความรู้ดีกว่าค่ะ
ลองค้นหาทนายอาสาดู มีเพียบค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ
ระวังตัวกันด้วย
ปล. เรารักจนท.รัฐทุกคนที่เราเจอมาตลอดทาง แม้แต่สคบ.ที่ทำเราเจ็บแปล๊บ หน้าที่พวกเขาก็คือแก้ปัญหาให้คนอื่นนั่นแหละ นับถือมากที่ต้องมาคอยฟังเรื่องปวดหัวของคนอื่นทุกวัน อยู่กับกองเอกสารเป็นตั้งๆ
ขอบคุณทุกคนค่ะ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ