อธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญาธนบุรี เบรกกระแส อย่าเพิ่งวิจารณ์ปมผู้พิพากษาพยายามยิงตัวตาย ระบุหลายครั้งที่โอละพ่อ ควรให้ผู้ที่ปรากฏในคำพิพากษาได้ชี้แจงก่อน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อองค์กรตุลาการและความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
จากกรณี นายคุณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้นจังหวัดยะลา ใช้ปืนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัสในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดยะลา แต่มามีการเผยแพร่เอกสารเป็นแถลงการณ์ของนายคุณากรทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีเนื้อหาในทำนองว่ามีความอัดอั้นตันใจที่ถูกแทรกแซงในการพิพากษาคดี พร้อมเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายห้ามตรวจร่างคำพิพากษาก่อนอ่านให้คู่ความฟัง ทั้งห้ามกระทำใดๆ อันมีผลเป็นการแทกแซงผลคำพิพากษา และเรียกร้องความเป็นธรรมทางการเงินแก่ผู้พิพากษาทั่วประเทศนั้น
เมื่อคืนวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญาธนบุรี ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เป็นข้อความไฮไลต์ว่า “อย่ารีบวิจารณ์สิ่งที่เห็น เพราะอาจเป็นภาพลวงตา หลายครั้งที่โอละพ่อ”
นอกจากนั้น นายปรเมศวร์ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมจากโพสต์ดังกล่าวว่า “ผมอยากให้นักกฎหมายทั้งหลายอ่านคำพิพากษาทัังหมด อย่าอ่านหน้าสองหน้า “คำพิพากษา” ที่ลงกันนั้น กล่าวถึง “อธิบดี” และท่านแทนตัวเองว่า “ผม” และช่วยพิจารณาว่า สิ่งที่ท่านเขียนนั้นเป็น “คำพิพากษา” ตามประมวลฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186,183 หรือไม่ องค์คณะครบตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 26 หรือไม่ การวิจารณ์หรือการแชร์และให้ความเห็นดังกล่าวทั้งหลาย ควรให้ผู้ที่ปรากฏในคำพิพากษาได้มีโอกาสชี้แจงก่อน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อองค์กรตุลาการและความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศได้ง่ายครับ เรามาช่วยกันรักษากระบวนการยุติธรรมทั้งระบบดีกว่าครับ”
ทั้งนี้ ได้มีแสดงความเห็นท้ายโพสต์รายหนึ่งถามว่า “แสดงว่าคุณปรเมศวร์ได้กลิ่นตุๆ เหมือนกัน” ซึ่งนายปรเมศวร์ตอบว่า “ไม่หรอกครับ แต่โดยปกติศาลแต่ละคนสั่งเขาไม่ได้ว่าให้ตัดสินอย่างไร ถ้าผู้ใหญ่ไม่เห็น เขาจะทำความเห็นแย้งไว้ท้ายคำพิพากษาครับ”
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ