แอร์เอเชียเล็งนำระบบเช็กอินด้วยใบหน้ามาใช้ปีนี้ คาดนำร่องสนามบินบุรีรัมย์





3 ต.ค.62 นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เข้าพบหารือที่กระทรวงคมนาคม ว่า สายการบินไทยแอร์เอเชีย เข้ามาหารือว่าเตรียมที่จะนำนวัตกรรมระบบเช็กอินอัตโนมัติ โดยการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือระบบเช็กอินด้วยการสแกนใบหน้า มาให้บริการแก่ลูกค้าของแอร์เอเชียในประเทศไทย เพื่อลดระยะเวลาการเช็กอินและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสาร

 

 

เบื้องต้นสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มอบให้นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เป็นประธาน ทำการศึกษารายละเอียดการนำระบบมาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวก และปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้บริการ เนื่องจากเป็นระบบที่จะต้องมีการเชื่อมโยงไปยังระบบข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ซึ่งหากข้อมูลรั่วไหลออกไปอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยได้ จะต้องศึกษาร่วมกับสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสายการบินของสายการบินโดยจะศึกษาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค. นี้

“ไทยแอร์เอเชียเตรียมจะติดตั้งเครื่องเช็คดินอัตโนมัติจดจำใบหน้ามาให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้บริการผ่านสนามบินภูมิภาคที่อยู่ในกำกับของทย. เบื้องต้นผมได้ตกลงร่วมกันว่าให้นำมาทดลองนำร่องให้บริการในสนามบินหลัก4 แห่งของ ทย. ก่อนคือบุรีรัมย์ น่าน นครพนม และร้อยเอ็ดก่อน”

นอกจากนี้ สายการบินยังขอให้มีการขยายทางวิ่งหรือรันเวย์ ที่สนามบินเบตง ซึ่งจะให้เป็นระยะ 2,100 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ ซึ่ง ในปี 2563 ทย. จะขอจัดสรรงบประมาณในการทำอีไอเอ และของบ 100 ล้านบาท ในการจัดหาที่ดินเพิ่มเติมจำนวน 100 ไร่ และในปี 2564 จะขอจัดสรรงบขยายและก่อสร้างรันเวย์อีก 1,000 ล้านบาทด้วย

นายถาวรกล่าวต่อว่า สายการบินยังขอให้สนามบินแก้ไขปัญหาอากาศยานชนนก ด้วยการเร่งกำจัดนก และสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อการบินที่อยู่ภายในเขตการบินของสนามบินทย. เนื่องจากที่ผ่านมาเครื่องบินได้รับความเสียหายจากปัญหาดังกล่าว แต่ไม่ถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุ เช่น สีเครื่องบินถลอกต้องมีภาระในการทำสีใหม่ เครื่องบินต้องขอลงฉุกเฉิน หรือต้องมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เบื้องต้นทย. จะของบอีก 100 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมืออิเล็คทรอนกส์ที่ใช้ในการกำจัดนกและสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อการบิน และจะสั่งให้มีการเข้มงวดในการกำจัดแหล่งน้ำ และหญ้า หอยเชอร์รี่ที่เป็นแหล่งอาหารของนกให้มากขึ้น

นายสันติสุขกล่าวว่า ขณะนี้แอร์เอเชียมีผู้โดยสารจำนวนมาก 20 ล้านคัน ทำให้เกิดปัญหาความไม่สะดวกในการรอต่อคิวเช็กอิน จึงเตรียมนำระบบเช็กอินด้วยใบหน้ามาใช้เพื่อลดความแออัดในการรอคิวเช็กอินเพราะใช้เวลาเช็กอินลดลงถึง 50% โดยจะใช้เวลาเช็กอินไม่เกิน 45 วินาที/คน น้อยกว่าระบบเช็กอินที่เคาน์เตอร์ซึ่งใช้เวลา 90 วินาที/คน โดยขณะนี้สายการบินได้นำระบบดังกล่าวมาให้บริการแล้วที่สนามบินในประเทศมาเลเซีย

นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบี ทย. กล่าวว่า คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถนำระบบเช็กอินด้วยใบหน้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย มาทดลองใช้ได้ในสนามบินของทย. แต่อาจจะนำร่องก่อนเพียง 1 แห่ง ที่มีปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการไม่มากนัก เช่น สนามบินน่าน หรือบุรีรัมย์ เป็นต้น

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: