“ศักดิ์สยาม” ถอยเรื่องติดจีพีเอสรถส่วนบุคคล โอด โดนวิจารณ์น่วม ระบุชัดให้ศึกษาใน 1 ปี ด้านกรมการขนส่งทางบกขอเวลาศึกษา 1 ปี ย้ำ คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีแนวคิดเรื่องการให้ติดจีพีเอส (GPS) ในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทุกคัน (อ่านข่าวก่อนหน้า “ศักดิ์สยาม” ส่งแนวคิดให้ขนส่งศึกษาติด GPS รถยนต์ เก็บรายเดือนอีก 300) ทำให้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างหนัก ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาแสดงข้อคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วย และยังคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ดังนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม นายศักดิ์สยาม อีกครั้ง ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ยังไม่พออีกหรือตอนนี้น่วมแล้ว
“เราจะไปฟื้นอีกทำไม เรื่องที่เฟดไปแล้วก็ให้ผ่านไป ถ้ายังไปพูดอีกก็จะหาว่าตลบตะแลง ไม่เอาไม่พูดแล้ว และต่อจากนี้ไปผมจะต้องให้โฆษกกระทรวงถามไปยังผู้สื่อข่าวก่อนว่าจะมีคำถามอะไรแล้วส่งมาให้ ผมจะตอบและพิมพ์ให้ เพราะตอนนี้ผมกลัวมาก ไม่เอาแล้ว ยอม ไม่ไหว ไม่สบายมากด้วย” โดย นายศักดิ์สยาม มีเสียงค่อนข้างแหบแห้งและสีหน้าอิดโรย จากนั้นรีบเข้าห้องทำงานทันที
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 22 ต.ค. 2562 นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายให้ติดตั้งจีพีเอสในรถยนต์ส่วนบุคคลนั้น เรื่องนี้ให้เป็นความรับผิดชอบของกรมการขนส่งทางบก เพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาก็ให้ข่าวว่าให้กรมการขนส่งทางบกมีการศึกษาใน 1 ปี และเมื่อผลการศึกษาออกมาแล้วกรมการขนส่งทางบกจะทำต่อหรือไม่ทำก็เป็นเรื่องของกรมการขนส่งทางบก หากไม่ทำก็พับเรื่องไป
ทางด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงนโยบายให้มีการติดตั้งเครื่องติดตามการเคลื่อนที่ความเร็วของรถยนต์ หรือ จีพีเอส กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกคัน ว่า เป็นแนวคิดและอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ขั้นตอนต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งเมื่อผลการศึกษาออกมาแล้วอาจจะนำมาปฏิบัติ หรือไม่สามารถนำมาปฏิบัติก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางกรมการขนส่งทางบกจะคำนึงถึงข้อมูลการคุ้มครองการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเป็นหลักด้วย.
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ