26 ต.ค.62 THE STANDARD รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการค้าปลอดภาษีกับสินค้าไทยหลายรายการ สืบเนื่องจากปัญหาด้านแรงงานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนน่าพอใจ ครอบคลุมสินค้านำเข้าจากไทยราว 1 ใน 3 ที่เคยได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงอาหารทะเลส่งออกทั้งหมด
ในจดหมายถึง แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ทรัมป์ระบุว่า ไทยไม่ได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมแรงงานให้สามารถเลี้ยงชีพได้ตามสิทธิแรงงานสากล ดังนั้นจึงได้สั่งระงับการค้าปลอดภาษีกับสินค้าไทยหลายรายการ
ด้านสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เผยว่า การระงับสิทธิทางการค้าครั้งนี้มีมูลค่าการค้ารวม 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.92 หมื่นล้านบาท) ภายใต้ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preferences หรือ GSP) ที่ให้สหรัฐฯ ผ่อนปรนให้กับประเทศกำลังพัฒนา
USTR ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า การระงับสิทธิพิเศษทางภาษีของสหรัฐฯ ครั้งนี้จะมีระยะเวลา 6 เดือน ครอบคลุมสินค้า 1 ใน 3 ที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษ ซึ่งรวมถึงอาหารทะเลส่งออกทั้งหมด
นอกจากไทยแล้ว สหรัฐฯ ยังทบทวนนโยบายนี้ใหม่กับหลายประเทศ โดยตัดสินใจฟื้นการค้าปลอดภาษีกับสินค้า 1 ใน 3 ของยูเครน เนื่องจากเห็นว่า ยูเครนมีการแก้ปัญหาเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในระดับที่น่าพอใจ
นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังทบทวนสิทธิพิเศษทางภาษีใหม่กับแอฟริกาใต้และอาเซอร์ไบจาน โดยพิจารณาจากประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิแรงงาน ตามลำดับ
ข่าวจาก : reuters, bangkokpost, THE STANDARD
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ