วันที่ 28 ต.ค. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐอเมริกา ตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลลากร (จีเอสพี) สินค้าจากไทย ให้มีผลหลังการประกาศ 6 เดือนว่า เป็นเรื่องของสหรัฐฯ เป็นเรื่องของกฎหมายเขา ไม่อยากให้ไปคาดเดาว่าตัดตรงนี้เพราะอะไร โดยรัฐบาลทราบมาอยู่แล้วว่าจะมีปัญหาตรงนี้ ที่ผ่านมาก็แก้ปัญหามาโดยตลอด กระทรวงพาณิชย์ก็ได้มีการเจรจา ต่อรองเยอะแยะ
ขณะเดียวกันเราเจรจาอย่างเดียวไม่ได้ เราก็ต้องแก้ไขปัญหาภายในของเราด้วย โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาแรงงาน เราก็จะต้องไปดูว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมีปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องในประเทศของเรา ทั้งคนของเรา แรงงานของเรา แรงงานต่างด้าวในประเทศของเรา เราพยายามเดินหน้าเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า อยากบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องตื่นตระหนก หรือว่ากล่าวให้ร้ายกันไปมา ไม่เกิดประโยชน์ เท่าที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงมา ตนเองคิดว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จะเห็นว่ารัฐบาลก็ได้ทำมาโดยตลอด จากข้อมูลมูลค่าไม่ได้มากนักสิทธิประโยชน์ ทั้งหมด 500 กว่ารายการ เราใช้ไปประมาณ 300 กว่ารายการ สำคัญที่สุดวันนี้ เราต้องตื่นตัว รัฐบาลตื่นอยู่แล้ว ภาคเอกชนก็ต้องตื่นตัวไปด้วยในการพัฒนาเรื่องเหล่านี้ รวมถึงการดูแลแรงงานในประเทศไทยด้วย ในส่วนของภาครัฐกระทรวงพาณิชย์กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าปรึกษากันทุกคนต้องมาแก้ปัญหาร่วมกัน
เรื่องนี้มีเวลาอีก 6 เดือน เราก็ต้องหาวิธีการพูดคุยกันต่อไป ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายของเขา อย่าทำให้เป็นปัญหาทางการเมืองอีก และอย่าพูดให้ทุกอย่างมันเลวร้ายไปกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ต้องมีอยู่ เพราะเขาคู่ค้าสำคัญของเราเหมือนกัน
เมื่อถามว่าในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จะนำเรื่องนี้พูดคุยกับผู้แทนสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าต้องคุยกันอยู่แล้วอาจจะหารือกันในเวที
“เรื่องสิทธิประโยชน์มัน 9 ปีมาแล้ว ทุกอย่างต้องมาดูเอา มาทบทวนหมด ทุกอย่างเรากำลังโตขึ้น เมื่อโตขึ้นก็การตัดสิทธิ์ก็มีประเทศอะไร ประเทศกำลังพัฒนา ประเทศที่ยังไม่ได้พัฒนา เขาให้สิทธิ์ตรงนั้นมา 9 ปีแล้ว ถ้าเขาตัดสิทธิ์อย่างนี้ เอ๊ะ เราโตเกินไปหรือเปล่า โตเร็วแล้วใช่ไหม รายได้ต่อหัวของประชากรสูงขึ้นใช่ไหม ตามที่เขาตั้งไว้ และต้องดูจีดีพีของเราอีกตัว เขาดูตรงนี้ เขาดูตัวเลข” “ผมคิดว่าเราคุยกันได้”
นายกรัฐมนตรี ย้ำด้วยว่า จากนี้ต้องไปดู ว่าสินค้ามีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงปานกลาง ความเสี่ยงน้อยจะไปแก้กันอย่างไร การคบค้าสมาคมกันต้องมีต่อไป มีการแลกเปลี่ยนซื้อของซึ่งกันและกัน การเมืองกับเศรษฐกิจมันก็เกี่ยวข้องกันหมด เราอย่าให้มันแย่ลงไปก็แล้วกัน อย่าไปยึดโยงกับอย่างอื่นแล้วกัน อย่าไปคาดเดา มันเป็นห้วงระยะเวลาที่ออกประกาศมาตามกำหนดของเขา
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ