ทหารเกณฑ์ ผลัดที่ 2/2562 ที่กำลังเข้าประจำหน่วยในเดือน พ.ย.นี้ ถือเป็น ‘รุ่นแรก’ ที่ต้องฝึกหลักสูตรใหม่ ให้เป็นทหารต้นแบบ ตามแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อยกระดับมาตรฐานการฝึก สอดคล้องกับนโยบายพัฒนากำลังพลต้นน้ำ มุ่งพัฒนาสมรรถภาพร่างกายให้ สมบูรณ์ แข็งแรง มีคุณลักษณะทางทหารที่ดี สง่างาม ปลูกฝังอุดมการณ์ รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
หลักสูตรใหม่นี้ จะเพิ่มชั่วโมงการฝึกจากเดิม 450 ชั่วโมง เป็น 500 ชั่วโมง แบ่งเป็น การฝึกเบื้องต้น ยึดรูปแบบการฝึกของโรงเรียนมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พ. ศ. 2560 โดยได้คัดเลือกท่าฝึกที่จำเป็นมาบรรจุในหลักสูตร เพื่อให้หน่วยฝึกทหารใหม่ มีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง และ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งกองทัพบก
สำหรับท่าฝึกพระราชทาน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ บุคคลท่ามือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าที่เคยเห็นและคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว ผ่านพระราชพิธีสำคัญ กับประโยคที่ว่า ‘ยกอก อึ๊บ’ หรือ เรียกว่า ‘ท่ายกอก’ มีที่มาจากกรณีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสังเกตและทรงทอดพระเนตรเห็น บรรดาทหารหลายนาย มีบุคลิกลักษณะไม่สง่า ผ่าเผย ยืนคร่อมตัว ไม่ยืดอกและปลายคางเชิด
จากนั้นจึงพระราชทานคำสอน และทรงพระเมตตาแสดงพระองค์เป็นตัวอย่าง ด้วยการยืดอก เก็บคางและสะบัดหน้าไปยังผู้รับการเคารพ ซึ่ง ท่า’ยกอก’นี้สามารถนำไปปฏิบัติประกอบกับทุกท่าการฝึกในขั้นตอนสุดท้ายของแต่ละท่าได้ ในระยะแรกทรงเรียกท่าการฝึกแบบลำลองว่า ‘ท่าแก้เขิน’ต่อมาพระราชทานชื่อ ‘ท่ายกอก’
สำหรับวิธีปฏิบัติ เมื่อได้ยินคำว่า ‘ยก’ เป็นการเตือนให้ผู้ปฏิบัติเตรียมพร้อม เมื่อได้ยินคำว่า ‘อก’ให้ผู้ปฏิบัติยกหน้าอกขึ้นในลักษณะกระตุกหน้าอกให้ผึ่งผาย ซึ่งไม่ใช่การยกไหล่หรือสูดลมหายใจเข้า จากนั้นเมื่อได้ยินคำว่า ‘อึ๊บ’ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปทางผู้บังคับบัญชาในลักษณะการกัดกรามไปในทิศทาง ตรงหน้า ทางขวาหรือทางซ้ายให้แข็งแรง
‘ท่านั่งคุกเข่า วันทยาหัตถ์’ เป็นการ ถวายความเคารพ,การถวายพระเกียรติ กรณีเมื่อพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จฯผ่านในระยะใกล้ประมาณ 3 -5 เมตร โดยการใช้คำบอก ‘คุกเข่า’ หรือสั่งแบบรวดเร็วว่า ‘อึ๊บ อึ๊บ’ โดยหลักการปฏิบัติมี 3 ขั้นตอน
เมื่อได้ยินคำบอก ‘นั่งคุกเข่าจังหวะ’หนึ่ง ‘ให้ผู้ปฏิบัติดึงเท้าซ้ายไปด้านหลังเล็กน้อยโดยไม่เสียลักษณะท่าทางส้นเท้าซ้ายเปิดมือซ้ายแตะอยู่ที่ตะเข็บกางเกง มือขวาปฏิบัติท่าวันทยาหัตถ์สายตามองตรงไปด้านหน้าในแนวระดับในกรณีที่ผู้ปฏิบัติปฏิบัติท่าแลขวาหรือแลซ้ายอยู่ ให้สะบัดหน้ามองตรงก่อนปฏิบัติจังหวะหนึ่ง
หากได้ยินคำว่า ‘นั่งคุกเข่าจังหวะ’สอง’ ให้ผู้ปฏิบัติดึงเท้าซ้ายไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเพื่อสะดวกต่อการนั่งคุกเข่าแล้วคุกเข่าซ้ายลง ให้ขาขวา ท่อนบนและท่อนล่างตั้งฉากกัน ส่วนอื่นๆของร่างกายยังอยู่ในลักษณะเดิม และเมื่อได้ยินคำบอก ‘นั่งคุกเข่าจังหวะ-สาม’ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปในทิศทางที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ส่วนอื่นๆของร่างกายยังอยู่ในลักษณะเดิม
ขณะที่ ‘ท่าเลิกนั่งคุกเข่าวันทยาหัตถ์’ ใช้คำบอกเลิกนั่งคุกเข่าหรือสั่งแบบรวดเร็วว่า “เลิก,อึ๊บอึ๊บ” ส่วนการปฏิบัติ เมื่อได้ยินคำว่า ‘เลิกนั่งคุกเข่าจังหวะ-หนึ่ง’ให้ผู้ปฏิบัติลุกขึ้นยืน โดยไม่เสียลักษณะท่าทาง ขาซ้ายเหยียดตึง ส้นเท้าซ้ายเปิด ส่วนอื่นๆของร่างกายยังอยู่ในลักษณะเดิม
เมื่อได้ยินคำว่า ‘เลิกนั่งคุกเข่าจังหวะ-สอง’ ให้ผู้ปฏิบัตินำเท้าซ้ายมาชิดส้นเท้าขวา กลับมาอยู่ในลักษณะท่าวันทยาหัตถ์ เมื่อได้ยินคำบอก ‘เลิกนั่งคุกเข่าจังหวะ-สาม’ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปในทิศทางที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จ ส่วนอื่นๆในร่างกายอยู่ในลักษณะเดิม
ส่วน ‘บุคคลท่าอาวุธ’ อาทิ ท่าคอนอาวุธและท่าเรียบอาวุธจากท่าคอนอาวุธ วิธีปฏิบัติ เมื่อได้ยินคำว่า “คอน,อาวุธ” ผู้ปฏิบัติ ใช้มือขวาที่จับถือปืนอยู่ในท่าเรียบอาวุธนั้นมากำรอบริเวณใต้โครงศูนย์หน้าในลักษณะหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว พร้อมยกปืนให้สูงขึ้นจากพื้นในแนวดิ่ง มากดแนบไว้กับสะโพกประมาณใต้เข็มขัดเล็กน้อย โดยข้อศอกขวากางออกตามธรรมชาติ แล้วผลักปากลำกล้องปืนเฉียงออกไปข้างหน้า โดยพานท้ายปืนชี้เฉียงไปทางด้านหลังให้แนวตัวปืนทำมุมกับลำตัวประมาณ 15 องศา ส่วนอื่นๆของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะท่าเรียบอาวุธ
และเมื่อได้ยินคำว่า “เรียบ,อาวุธ”ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาที่กำปืนอยู่ในท่าคอนอาวุธ ลดปืนต่ำลงไปในแนวดิ่งอย่างแข็งแรง ในขณะเดียวกันนั้นก็ให้เปลี่ยนมือจากท่ากำปืนใต้โครงศูนย์หน้าไปเป็นการจับปืนในท่าเรียบอาวุธพยายามรักษาแนวปืนให้ตั้งตรงในแนวดิ่ง จากนั้นลดปืนลงจนกว่าพานท้ายปืนจะวางอยู่บนพื้นในลักษณะท่าเรียบอาวุธโดยไม่กระแทก จากนั้นให้ปฏิบัติ ‘ท่ายกอก’
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของท่าฝึกเบื้องต้นในประเภท บุคคลท่ามือเปล่า และ บุคคลท่าอาวุธ เท่านั้น เพราะยังมีท่าอื่นๆอีก อาทิ ท่ายกปืนและเอาปืนลง,ท่าวางปืนและท่าหยิบปืน,ท่าเตรียมใช้อาวุธและท่าเรียบอาวุธจากท่าเตรียมใช้อาวุธ,ท่าตรวจอาวุธ ท่าติดดาบและปลดดาบ ฯลฯ
นอกจากนี้ หลักสูตรใหม่ในการฝึก ‘ทหารเกณฑ์’ ยังสอดแทรก วิชาช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ จิตอาสา,การบรรเทาสาธารณภัย,การปฐมพยาบาล ตลอดจนถึง วิชาทหารทั่วไป การฝึกใช้อาวุธ และการฝึกยุทธวิธี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ