ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคและสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค แถลงข่าวเปิดตัว นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก และอดีตผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์และเข้าสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย
โดยนายสุเทพ กล่าวถึงนายแพทย์วรงค์ว่า เป็นคนดีมีความตั้งใจ พร้อมชื่นชมการทำหน้าที่ ในการตรวจสอบทุจิรตโครงการจำนำข้าว และผลจากการทุ่มเททำงานของนายแพทย์วรงค์ ทำให้คนไทยได้เห็นการหาประโยชน์โดยใช้อำนาจทางการเมือง ทั้งนี้เมื่อทราบว่าจะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์จึงได้เชิญชวนมาร่วมพรรค และจะเป็นกำลังสำคัญของพรรคด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะนำเสนอกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้หมอวรงค์ได้ทำหน้าที่เดินหน้าจัดตั้งสาขาพรรคตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เพราะสาขาพรรคถือเป็นองค์กรที่ใหล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด เพื่อนำเอานโยบายของพรรคไปสู่ประชาชนได้
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังยืนยันว่าการที่หมอวรงค์ มาร่วมพรรคไม่ใช่เป็นไปตามข่าวลือที่ระบุว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและคณะรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า ม.ร.ว จัตุมงคล จะเป็นหัวหน้าพรรคไปอีก 4 ปี จนครบวาระ และจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไปจนจบสมัยของรัฐบาลนี้ แลพย้ำว่า เลขาธิการพรรค รปช. ยังเป็น นายทวีศักดิ์ ชี้พรรคไม่ใช่ของลุงกำนัน แต่หากการประชุมสมัชชาพรรคที่จะมีทุก 4 ปี จะเสนอในที่ประชุมให้เป็นผู้จัดตั้งสาขาพรรค จะเรียกอะไรนั้นไม่รู้ แต่จะไม่เดินตามพรรคอื่น ที่จะให้มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค
ขณะที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย บอกว่า หลังจากที่นายสุเทพ ได้ชักชวนตัวเองเข้ามา ก็ทราบว่าไม่ใช่พรรคปกติ เนื่องจากเป็นพรรคที่ไม่ได้เสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่มย่อมมีที่มาที่ไปไม่เหมือนพรรคอื่น จากนั้นได้ผ่านการเลือกตั้งมาได้ระยะหนึ่ง จนได้มี ส.ส.และรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่มีนักการเมืองที่มืออาชีพจริง ๆ วันนี้โชคดีที่ได้ นายแพทย์ วรงค์ เข้ามาร่วมพรรค ซึ่งเป็นนักการเมืองมืออาชีพ ที่เห็นว่าตรงไหนเป็นโอกาสที่จะเข้าไปทำประโยชน์ต่อประชาชนได้ ซึ่งจะทำให้พรรคมีความพร้อมและครบเครื่องในการทำงานการเมืองต่อไป
ขณะที่ นพ.วรงค์ ระบุว่า รู้สึกอบอุ่นกับการต้อนรับของพรรคมาก โดยกล่าวติดตลกว่า หากรู้ว่าอบอุ่นขนาดนี้คงมานานแล้ว พร้อมเล่าการตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังการเลือกตั้งปัญหาการเมืองเปลี่ยนแปลงไปมากจากการทุจริตเชิงนโยบายเป็นกฎหมายล้างผิด ซึ่งตัวเองทนไม่ได้ จึงเข้าพบ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อบอกว่าในประเทศมีปัญหาเรื่องลัทธิชังชาติที่พยายามปลุกปั่นเยาวชน สร้างความเกลียดชัง ย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีตลอดมา และไม่มีความขัดแย้ง
พร้อมกันนี้ นพ.วงรค์ ได้ฝากถึงคนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เราไม่ควรทะเลาะกัน และอนาคตต้องพึ่งพากัน เพราะ ประเทศมีปัญหาหลากหลาย สไตล์ของผมไม่เหมาะกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่เหมาะกับการออกไปปราบลัทธิชังชาติกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยมากกว่า ทั้งนี้จะมีคนในพรรคประชาธิปัตย์จะย้ายตามมาอีกหรือไม่ นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนดูแล้วว่าตัวเองเดินถูกทางหรือไม่ นี่คือวิถีนักการเมือง.
ข่าวจาก ข่าวช่องวัน, มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ