วันที่ 28 พ.ย. ที่รัฐสภา เกิดเหตุการณ์สภาล่มซ้ำ 2 ระหว่างนับองค์ประชุมเพื่อเตรียมลงมติแบบขานรายชื่อว่าจะให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 หรือไม่ หลังจากฝ่ายค้านบอยคอตออกจากห้องประชุมเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่ฝ่ายรัฐบาลลงมติแบบเสียบบัตรแพ้แล้วจะให้นับคะแนนใหม่ ทำให้ต้องเปลี่ยนการลงคะแนนมาเป็นแบบขานรายชื่อทีละคน ซึ่งฝ่ายรัฐบาลรวบรวมเสียงได้ 240 จากกึ่งหนึ่ง 250 เสียง จึงไม่ครบองค์ประชุม
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลหรือ วิปรัฐบาล แถลงว่า ฝ่ายรัฐบาลมองว่า กรณีเรื่องคำสั่ง คสช. มีมากกว่า 500 ฉบับ ได้รับการแก้ไขไปแล้ว 400 กว่าฉบับ เหลืออยู่ที่กระทรวงและกรมพิจารณา เตรียมเสนอเป็นพระราชบัญญัติ อีกส่วนอยู่ในระหว่างสิ้นสุดไปตามอายุคำสั่ง สามารถจะใช้ช่องทางคณะกรรมาธิการสามัญด้านกฎหมายที่มีอยู่แล้วได้ จึงมีมติยืนยันจะไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ
ส่วนการลงมติเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย. เสียงรัฐบาลหายไป 15 เสียง ซึ่งทราบภายหลังว่าบัตรที่เสียบกันนั้นไม่ปรากฎชื่อว่าได้ลงคะแนน หรือยืนยันว่าตัวเองอยู่ในห้องประชุม ในส่วนนี้อีกประมาณ 5-6 เสียง วันนี้เราได้เตรียมการแก้ไข แต่เพราะมีการประชุมคณะกรรมาธิการหลายคณะ สมาชิกลงมาโหวตไม่ทันและมีบางส่วนที่ป่วย ขอยืนยันว่าฝ่ายรัฐบาลไม่ได้เล่นเกม เราต้องการโหวตให้เรื่องนี้ผ่านไป เพื่อที่จะได้เริ่มพิจารณาญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อ ซึ่งช่วงเช้าเราได้ประสานกับวิปฝ่ายค้านแล้วว่าเร่งให้เร็วนิดได้ไหมเพื่อจะได้นำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้า แต่ได้คำตอบคืออยากให้ฝ่ายรัฐบาลหาองค์ประชุมเอง ซึ่งเราก็พยายามแล้ว
นายวิรัช กล่าวว่า อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในการประชุมวันพุธที่ 4 ธ.ค.เราจะกลับมาโหวตอีก เราก็จะดูแลให้เต็มที่ให้ดีกว่านี้ สำหรับญัตตินี้ที่ตนขอให้นับคะแนนใหม่ก็เป็นไปตามมาตรา 85 ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามจะทำองค์ประชุมให้ครบและพยายามที่จะนำเสนอญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสภาให้เร็วสุด
เมื่อถามว่ายืนยันว่า ไม่ได้มีการยื้อญัตติการการตั้งคณะกรรมาธิการ ศึกษาผลกระทบการใช้ ม. 44 เพื่อให้การตั้งคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญช้าออกไปใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ตนก็ยังสงสัยไหนว่าจะเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วทำไมไม่รีบลงคะแนนในส่วนนี้ แพ้ชนะก็ว่ากันอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งผลโหวตจะออกมาเป็นอย่างไร เราต้องเคารพ เพราะมันมีได้แค่ครั้งที่ 2 เท่านั้น ต่อข้อถามว่าจะทำให้เกิดการแก้เกมกันในอนาคตของฝ่ายค้านหรือไม่ เมื่อแพ้โหวตแล้วขอนับใหม่ นายวิรัช กล่าวว่า ก็สุดแล้วแต่ อะไรที่ทำตามข้อบังคับหรือกฎหมายแล้วไม่ผิดก็ทำไป
เมื่อถามต่อว่าจะทำให้งานสภาล่าช้าออกไปอีก นายวิรัช กล่าวว่า หากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญก็ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ แต่ถ้าเป็นญัตติด่วนก็มีทางออกหรือทางแก้ในด้านอื่นๆ เช่น คำสั่ง คสช.ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถเสนอเข้าสู่คณะกรรมาธิการสามัญที่มีอยู่ 35 คณะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายได้
ต่อข้อถามว่านายวิรัชจะสามารถทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลต่อไปได้หรือไม่หลังการประชุมสภาล่มมา 2 ครั้ง นายวิรัช กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมาไม่ได้ถือว่าล่ม เป็นเพียงอุบัติเหตุทางการเมือง เมื่อถามต่อว่าจะไม่เป็นเกมได้อย่างไรในเมื่อการนับองค์ประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ส.ส.พลังประชารัฐที่นั่งอยู่ในห้องประชุมก็ไม่ได้ออกเสียง นายวิรัช กล่าวว่า เมื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านวอร์กเอาท์ออกไปแล้ว เราก็ไม่สามารถไปดึงไว้ได้ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเองก็อยู่เฉยๆ รอดูถ้าเขามาโหวตก็โหวตพร้อมกัน บางคนไม่โหวตก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามจะพยายามให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าให้ครบในครั้งหน้า
ส่วนกรณีที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนโหวตสวนนั้น นายวิรัช กล่าวว่า ได้มีการแจ้งต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และจะเป็นการตอบโต้กรณีที่ไม่เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ภายในพรรคเขาจะจัดการกันเอง ถือเป็นสิทธิของสมาชิก
เมื่อถามว่าในครั้งหน้าหากการประชุมสภาล่มและควบคุมเสียงไม่สำเร็จจะทบทวนการทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลของตัวเองหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ไม่เป็นไร พร้อม
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ