ดีเดย์ 9 ธ.ค. นี้ เริ่มมาตรการ ‘แบ่งสินบนนำจับ’ รถทำผิดกฎหมายขนส่งทางบก คนแจ้งเบาะแสรับค่าปรับ 50% คนผิดถูกตัดแต้ม พักใช้ใบอนุญาต กระตุ้นประชาชนช่วยจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์การแบ่งสินบนนำจับ สำหรับผู้แจ้งข้อมูลการกระทำผิดทุกประเภทที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายเปิดทางให้มีการแบ่งสินบนนำจับอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการกำหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์รองรับอย่างชัดเจน
ขบ. จึงร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อกำหนดขั้นตอนและรายละเอียดในการแจ้งเบาะแส วิธีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และแบ่งสินบนนำจับให้กับผู้แจ้งข้อมูล โดยคาดว่า ขบ. จะออกประกาศและเริ่มบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ในวันที่ 9 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งทันกับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก
สำหรับประชาชนที่ต้องการแจ้งข้อมูลการกระทำผิด เช่น รถสาธารณะไม่สะอาด บริการไม่ดี ไม่รับผู้โดยสาร ไล่ผู้โดยสารลงกลางทาง ก็สามารถส่งข้อมูล รูปภาพ คลิปวีดิโอ หรือหลักฐานอื่นๆ ได้ทาง www.dlt.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของ ขบ. รวมถึงเฟสบุ๊กและสายด่วน 1584 ถ้าหากพิสูจน์แล้วว่า มีการกระทำผิดจริง ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งสินบนนำจับ 50%
ด้านผู้กระทำผิดจะถูกตัดแต้มในใบอนุญาตขับขี่ที่มีอยู่ 100 คะแนนเต็ม และเมื่อคะแนนลดลงถึงจุดหนึ่ง ก็ถูกพักใช้ใบอนุญาต หากยังกระทำผิดซ้ำซาก ก็อาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้ นอกจากนี้ ผู้กระทำผิดจะถูกปรับตั้งแต่ 200 บาท จนถึงไปถึง 50,000 บาท แล้วแต่ฐานความผิด ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสก็จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าปรับนี้
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า แนวทางดังกล่าวเป็นการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุ รวมถึงจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนนและรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจาก ขบ. มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่ไม่มีเป้าหมายเรื่องการแบ่งสินบนนำจับ หรือเจตนาจะปรับใคร
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีเป้าหมายจะนำมาใช้กับรถโดยสารสาธารณะเป็นหลัก จึงต้องออกระเบียบและขั้นตอนให้ชัดเจน เช่น ผู้แจ้งข้อมูลต้องมาแสดงตัวอย่างไร จะมีการจ่ายสินบนนำจับเป็นเงินสด หรือวิธีการอื่นๆ เป็นต้น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ