“นายกฯ” ชี้ รัฐบาลร้อนใจต้องหารายได้เพิ่ม บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ย้ำรบ.ชุดนี้มาจากรธน.ฉบับปัจจุบัน แซะ ใครผิดให้ศาลตัดสิน อย่าตัดสินกันเอง วอนไม่ต้องวิ่งไล่ เหตุยังไม่ถึงเวลา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม (กห.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานมอบเงินค่าเวนคืนที่ดินเพื่อเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองฯ ว่า ทั้งนี้ เราต้องร่วมมือกันทำอย่างไรไม่ให้ลูกหลานลำบากในวันข้างหน้า จะต้องดูแลให้ถูกวิธี สร้างการเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็ง สอนให้คนคิดเป็น มีหลักคิด มีหลักวิเคราะห์ ไม่ใช่สอนแต่ในตำราเพียงอย่างเดียว ทุกคนจะต้องรู้จักคิด จะรู้แค่เพียงแต่ในตำราอย่างเดียวไม่ได้ โลกปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สงครามการค้า สงครามความขัดแย้ง ทุกอย่างยึดโยงกันหมด เพราะโลกไร้พรมแดน การทำงานต้องคำนึงถึงทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของเรา รัฐบาล การสร้างความเข้าใจกับส.ส. ส.ว. วันนี้เราต้องสร้างประเทศของเราใหม่ เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ อย่ามัวแต่ไปคิดสิ่งเดิมๆ มันจะอยู่ลำบากในอนาคต วันนี้เรายังพออยู่ได้ แต่ทุกอย่างจะยากขึ้นเรื่อยๆ หลายอย่าง หลายคนได้รับผลกระทบ แต่ขอให้รู้ว่า รัฐบาลร้อนใจยิ่งกว่าพวกท่าน และจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มเติม เพื่อมาดูแลสิ่งต่างๆ ที่ทุกคนเดือดร้อน แต่ต้องยอมรับว่า รายได้วันนี้เรามีปัญหาจากภายนอก ซึ่งกำลังแก้ไขอยู่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะจมอยู่กับสิ่งเดิมไม่ได้ รัฐบาลนี้จึงมุ่งสร้างโอกาสให้แก่ทุกคน ให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม
“ทุกคนต้องคิดตามรัฐบาล อย่ามัวไปวิ่งไล่ตามผม หรือไม่ต้องมาไล่ผมหรอก ขอให้ไล่ตามว่าผมพูดอะไร คิดอย่างไร เพราะวันนี้ทุกคนต้องรวมพลัง มีความรัก ความสามัคคี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตน แล้วจะได้ทุกอย่าง ทั้งนี้ ถ้าจะให้เราเป็นรัฐบาลใจดี ตามใจมากๆ วันข้างหน้าเราจะกลายเป็นรัฐล้มเหลวทันที เพราะงบประมาณจะไม่เพียงพอ หนี้สาธารณะเพิ่ม ถ้าเราไม่พูดกัน ก็ไม่ทราบ จะมองว่ารัฐบาลเอาเงินไปทำอะไรหมด แล้วก็จะไปสู่เรื่องการทุจริต อย่างวันนี้ผมก็ขอให้จ่ายเงินชดเชยให้เร็วที่สุด ในเมื่อเงินมันมี ก็แจกให้มันเร็ว ไม่ใช่มัวไปนั่งรอตามกำหนด แต่ขอร้องว่าเมื่อได้เงินแล้วก็อย่ารีบใช้จนหมด แต่ต้องยอมรับว่าแต่ละคน ได้รับเงินไม่เท่ากัน ซึ่งก็เป็นตามระบบของการค้าเสรี ใครมีเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น และใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด อย่ามาใจร้อนกันทุกเรื่องไป ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานกันบ้าง ถ้าตัดสินกันเองหมด ก็คงไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีตำรวจ หรืออัยการ ต้องปล่อยให้กระบวนการเขาตัดสินกันออกมา แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อยกันเองตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมดีใจที่ได้มาเจอกัน จะได้พูดตรงกัน เพราะบางครั้งผมเจอคนที่อยู่ในแวดวงการเมือง ก็พูดกันว่าบางเรื่องผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย วันนี้เราจะได้รู้พร้อมกัน และทุกอย่างที่ผมพูดไปมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นในเว็บไซต์ไทยคู่ฟ้า หรือคำกล่าวของนายกฯ ทั้งหมด สามารถดูได้ว่า 5 ปีที่ผ่านมาผมพูดอะไรบ้าง และไม่มีอะไรบิดพลิ้วจากสิ่งที่พูด เพราะทุกอย่างผมได้ศึกษาและรัฐบาลก็นำไปปฏิบัติ แต่บางครั้งก็อาจจะตามผมไม่ทัน อย่างวันนี้ ทุกคนก็ต้องช่วยกันคิด ผมไม่ได้เก่งกว่าท่าน พวกท่านเก่งกว่าผมเยอะ หลายอย่างผมทำไม่ได้ แต่ผมสามารถจะบริหารให้ทุกคนได้ประโยชน์ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเป็นสังคมแห่งการพึ่งพาอาศัยต่อกัน ต้องมีความปรองดองซึ่งกันและกัน ลดความขัดแย้ง ลดความบิดเบือน วันนี้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่สามฝ่ายได้ทำงาน ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลากร เพราะนี่คืออำนาจตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกประการ และวันนี้ที่เดินทางมา และนั่งอยู่ในที่นี่ก็มาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งสิ้น ขอร้องว่าอย่าให้เสียเวลากันอีกต่อไปเลย อย่าปล่อยให้ทุกอย่างล้าช้าออกไปอีก ถ้ายังวุ่นวาย แล้วเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลไม่มีอีก แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างก็ต้องหยุดหมด
“วันนี้แค่รายจ่ายงบประมาณปี 2563 ก็ยังไม่ออก ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลช้าไปอีกหลายเดือน เงินก็ไม่ไหลลงมา โครงการต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ แรงงานก็ไม่ออก ค่าจ้างก็ต้องหยุดหมดทุกอัน นี่คือปัญหาความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบปีงบประมาณ 2563 อีกทั้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการงบประมาณปี 2564 แล้วยังจะมีความเคลื่อนไหว ให้มีการยกเลิกงบประมาณเข้าไปอีกให้รัฐบาลไปๆ เสีย ซึ่งผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา ขอให้ทำงานทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน วันนี้รัฐบาลเพิ่งเข้ามา 4-5 เดือนเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องดูกันว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน มันอยู่ที่ทุกคน ที่จะต้องช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ