เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายเสริมสุข บุญญาล้ำเลิศ อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ 1 องค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกว่า 50 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกประกาศเลิกจ้าง ตามประกาศองค์การค้าฯ เรื่องการเลิกจ้าง เนื่องจากองค์การค้าไม่ประสงค์จ้างลูกจ้างชั่วคราวตามโครงการสรรหาเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ จึงบอกเลิกสัญญาจ้าง ได้เดินทางมายื่นหนังสือเรื่อง การถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมจากองค์การค้าของ สกสค. ต่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานรัฐมนตรีรับเรื่องไว้ พร้อมกันนี้ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิกการ สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้า ของสกสค. โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องแทน พร้อมชูป้ายข้อความว่า “ค่าชดเชย…ให้รอ แล้วบอกไม่สามารถจ่ายให้ได้” “ความถูกต้องอยู่ตรงไหน”
นายเสริมสุข กล่าวว่า ตนและพวกรวม 227 คน ถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดที่ถูกเลิกจ้างเป็นลูกจ้างตามโครงการสรรหาเจ้าหน้าที่องค์การค้าของ สกสค. ปฏิบัติงานและรับผิดชอบงานในหน้าที่ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติงานโครงการเฉพาะกิจ ซึ่งแต่ละคนทำงานมาแล้วเฉลี่ยมาแล้วประมาณ 5 ปี การเลิกจ้างครั้งนี้ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า แต่มีประกาศองค์การค้าฯ เรื่องการเลิกจ้าง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ระบุว่า ไม่ประสงค์จ้างลูกจ้างชั่วคราวตามโครงการสรรหาเจ้าหน้าที่องค์การค้า ของสกสค.จึงขอบอกเลิกสัญญาจ้างและยินดีจ่ายเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้า โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป แต่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีประกาศองค์การค้าฯ เรื่องค่าชดเชย ที่ลงนามโดย นายดิศกุล ระบุว่าการเลิกจ้างดังกล่าว องค์การค้าฯไม่สามารถจ่ายค่าชดเชย ตามที่ลูกจ้างชั่วคราวเรียกร้องได้ เนื่องจากองค์การค้าฯ เป็นสถานประกอบกิจการที่มิได้แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ จึงไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติเรื่องค่าชดเชยแห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งทำให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง 227 คน ได้รับความเดือดร้อนมาก
“ผมและคณะได้มายื่นหนังสือเรียกร้องต่อ รัฐมนตรีว่าการศธ. และปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. ให้จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า กรณีเลิกจ้าง ซึ่งตามกฎหมายต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน แต่ครั้งนี้มีการประกาศและให้มีผลในวันถัดไปเลย ดังนั้นต้องชดเชยการบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 60 วัน หรือ 2 เดือน แต่กรณีนี้ทางองค์การค้าฯ จ่ายให้ลูกจ่ายเพียง 30 วัน ซึ่งยังขาดอยู่อีกครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ขอเรียกร้องเงินชดเชยตามอายุงาน ที่กฎหมายแรงงานกำหนด การที่ นายดิศกุล มีหนังสือระบุว่าไม่จ่ายค่าชดเชย เนื่องจากเป็นสถานประกอบการที่ไม่แสวงหากำไรนั้น ขัดกับระเบียบองค์การค้าว่าด้วยการบริหารงานบุคคลเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง ปี 2554 ข้อ 74 ที่ระบุชัดเจนถึงสภาพการจ้างโดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ส่วนเหตุผลที่ว่าเลิกจ้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายนั้น ก็ขัดกับสภาพความเป็นจริง ที่ปัจจุบันองค์การค้ามีการจ้างลูกจ้างบริษัทซึ่งมีอัตรค่าแรงที่สูงกว่า รวมถึงจ้างที่ปรึกษาอัตราค่าจ้างหลักแสนบาท ดังนั้น ขอเรียกร้องให้องค์การค้าฯ จ่ายค่าชดเชยตามที่จ่ายจริงให้แก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างรวมประมาณ 16 ล้านบาท”นายเสริมสุขกล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ