เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ ว่า อย่าเพิ่งไปกล่าวอ้างถึงประเด็นนั้นอย่างเดียว เพราะเหตุผลการทำร้ายตัวเองไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยฉับพลัน ถ้าไม่ได้รับการกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง ความจริงแล้วเราควรจำกัดการนำเสนอข่าวแบบนี้ให้มากที่สุด เพราะจะทำให้เกิดภาวะอุปทานหมู่ได้ ซึ่งหากใครมีปัญหาเราก็มีกรมสุขภาพจิตที่มีหน่วยออกไปดูแล และเยียวยาสภาพจิตใจ สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ก็อยากให้ญาติๆ ช่วยดูแล หรือรีบพามาพบแพทย์ หากได้รับการกระทบทางจิตใจอย่างเฉียบพลัน
เมื่อถามว่า กรมสุขภาพจิตมีข้อมูลหรือสถิติในการประเมินสาเหตุการฆ่าตัวตายหรือไม่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงมีมาตรฐานวัดระดับความเจ็บป่วย เช่น สมัยช่วงน้ำท่วม หรือช่วงภัยแล้ง เราจะมีทีมเฉพาะกิจเข้าไปดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากทางเศรษฐกิจส่วนนี้รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีความพยายามให้มีเงินหมุนเวียนให้เร็วที่สุด
เราก็คาดหวังว่าก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากสภาได้ ซึ่งจะทำให้การใช้จ่าย และการลงทุนของภาครัฐเกิดขึ้น และทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้เข้ามาในช่วงปลายปีงบประมาณพอดี ทำให้การจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างขุรขระ และเสียเวลาไปประมาณ 2-3 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลกระทบจากการที่งบประมาณออกช้ามีมากน้อยเพียงใด นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนนี้ก็ต้องบอกว่ามีผลกระทบ หากจะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้ สำหรับกระทรวงสาธารณสุขก็ได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถปรับปรุงหรือยกระดับหน่วยบริการ และไม่สามารถมีงบไปสร้างโรงพยาบาลต่างๆ ได้ แม้จะเสียเวลา 2-3 เดือนก็ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะเราสามารถไปเน้นการจัดซื้อจัดจ้าง การเปิดประมูลให้คนเข้ามาตามสัญญาให้เร็วที่สุด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ