(23 ม.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า 31 ม.ค.นี้จะนำมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” เวอร์ชั่นอินเตอร์ สำหรับกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสนอคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เป็นมาตรการที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจเกิดความกังวลเมื่อเดินทางมาไทย
เพราะเงินบาทแข็งค่าส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในเมืองไทย สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแพงขึ้นมากกว่า 10 % การแจกคูปองเงินสด สำหรับช้อปปิ้งทดแทนค่าเงินบาทที่แข็งค่า
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย หรือการท่องเที่ยวในประเทศที่ผ่านมา จะดำเนินการผ่านมาตรการของกระทรวงการคลัง ส่วนมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ กระทรวงฯจะเร่งดำเนินการในเร็ววันนี้ เพื่อดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลง จากทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การตัดราคาของคู่แข่ง และเงินบาทแข็งค่า หลังวันที่ 31 ม.ค. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศจะทยอยออกมา
“มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยในส่วนนี้จะใช้เงินจากงบประมาณกลาง ที่จะขอจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วงเงินสำหรับกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศสำหรับมาตรการชิม ช้อป ใช้ ใช้เงินเท่าไหร่ มาตรการกระตุ้นยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็จะใช้วงเงินเดียวกัน”
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในครม.เศรษฐกิจจะเสนอมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว อาทิ มาตรการฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย หากไม่ผ่านการเห็นชอบก็จะขอขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) ไปจนถึงสิ้นปี 2563 แทน จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากสองตลาดใหญ่ ชูเป็นจุดขายแข่งกับประเทศคู่แข่ง เช่น มาเลเซีย ที่ล่าสุดประกาศให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดียเช่นกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2563
“มั่นใจว่าคราวนี้มาตรการยกเว้นวีซ่าจะได้รับความเห็นชอบ หลังจากครั้งที่แล้วฝ่ายความมั่นคงมีข้อท้วงติง ไม่ได้ประชุมแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ครั้งนี้ทั้ง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มหาดไทย กลาโหม การต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ประชุมหารือร่วมกันอย่างรอบด้าน เบื้องต้นมี 4 หน่วยงานเห็นด้วย เหลือเพียงการต่างประเทศที่ยังแบ่งรับแบ่งสู้”
หากมาตรการฟรีวีซ่าผ่านความเห็นชอบ จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียจาก 1.9 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว เป็น 2.5 ล้านคนในปีนี้ ขณะที่นักท่องเที่ยวจีน คาดเพิ่มจาก 11 ล้านคนปีที่แล้ว เป็นไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคนในปีนี้ แต่ถ้าไม่มีมาตรการนี้ นักท่องเที่ยวจีนและอินเดียอาจเปลี่ยนใจไปเที่ยวประเทศอื่นๆ อย่างมาเลเซียและเวียดนาม ในภาวะที่ค่าเงินบาทแข็งค่ากระทบต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยวในไทย
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า ขณะนี้คู่แข่งทุกประเทศ ต่างออกมาตรการอำนวยความสะดวก เพื่อแย่งชิงนักท่องเที่ยวไปจับจ่ายในประเทศตัวเอง รับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว ที่ไม่นิยมวางแผนล่วงหน้านาน ไทยจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการด้านวีซ่า
แต่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่ายังจำเป็นต้องขอวีซ่า ตามมาตรา 12 ของพ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง ททท.จึงมองว่าสามารถผ่อนปรนให้เป็น “การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า” แก่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดียแทน หลังก่อนหน้านี้ไทยเคยใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนจนเห็นผลมาแล้ว หลังเกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อปี 2558
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ