อาการผีอำ (หรือเรียกว่าอาการ Sleep Paralysis) ไม่ได้เป็นเรื่องราวของไสยศาสตร์หรือเรื่องหลอนๆนะคะ แต่เป็นอาการทางร่างกายที่เกิดมาจากสมองกับร่างกายตื่นไม่พร้อมกัน อาการผีอำ คือ สมองยังไม่ตื่น (สารที่ควบคุมไม่ให้ร่างกายเคลื่อนไหวยังคงทำงาน) แต่ร่างกายเราตื่นแล้ว (รู้สึกตัวแต่ไม่สามารถขยับตัวได้) พูดง่ายๆก็คือ สมองยังนอนอยู่ แต่ว่าร่างกายตื่นแล้ว เลยยังขยับตัวไม่ได้ เพราะสมองยังสั่งการไม่ได้
ซึ่งลักษณะอาการผีอำ คือ เมื่อเราตื่น รู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว แต่เราทำได้เพียงกลอกสายตาไปมาๆ แต่ไม่สามารถลุกขึ้นได้ ยกแขนยกขาไม่ได้ รู้สึกว่ามีผีหรืออะไรหนักๆมานั่งทับบนตัว เวลาจะตะโกนออกเสียงร้องให้คนช่วย ก็ไม่สามารถออกเสียงได้ ร้องไม่ออกนั่นเอง ในวินาทีนั้น เราก็จะรู้สึกตกใจ คิดไปเอาเองว่า เรากำลังโดนผีอำ แล้วสมองของเราจะจินตนาการเรื่องราวที่น่ากลัวให้ผสมกับความรู้สึกที่มีอยู่ บางคนมีอาการประสาทหลอนขึ้นมา เช่นอาจเห็นภาพหลอนหรือได้ยินเสียงต่างๆ ทำให้รู้สึกหลอนๆ หวาดกลัวเต็มที่ แล้วจากนั้นสักพัก พอความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาเยอะๆ เราก็จะเริ่มสวดมนต์เพื่อให้ผีออกไป พอสวดมนต์ไปสักพัก ก็คิดว่าสงสัยผีคงกลัวเสียงสวดมนต์ ทำให้อาการเราดีขึ้น และเริ่มขยับตัวได้ค่ะ
แต่ในความจริงแล้ว ที่ร่างกายเริ่มขยับตัวได้ เป็นเพราะว่าสมองของเราได้เริ่มหยุดการหลั่งฮอร์โมน (Growth hormone) ออกมาค่ะ ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้จะยับยั้งไม่ให้ร่างกายทำงานในขณะที่ฝันอยู่ค่ะ เพื่อป้องกันการขยับของร่างกายเมื่อเรากำลังฝัน หากฮอร์โมนตัวนี้ ไม่ทำงาน ก็จะทำให้เราเกิดอาการละเมอค่ะ กล่าวคือ ขณะที่เราหลับหรือฝันอยู่ เมื่อฮอร์โมนไม่ทำงาน จะทำให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหว อาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเราเองได้ค่ะ
ซึ่งอาการผีอำส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อเราหลับในช่วงระยะ REM (Rapid eyes movement) ค่ะ เป็นระยะที่ 2 ของการนอนหลับ และระยะที่เราใกล้ตื่น ซึ่ง2ระยะนี้เป็นระยะของการเกิดความฝันค่ะ แต่ถ้าเรานอนหลับสนิทหรือหลับลึกเลย เราจะไม่มีความฝันค่ะ พอเราได้หลับสนิท ตื่นมาร่างกายก็จะสดชื่น สดใส เพราะได้หลับอย่างเต็มที่ค่ะ
อาการผีอำนี้จะพบได้ทุกวัยนะคะ สาเหตุที่เกิดอาการผีอำมีหลายสาเหตุ เช่น
1. อดหลับอดนอน
2. นอนหลับไม่สนิท
3. การใช้สารเสพติด
4. เป็นโรคลมหลับ (Narcolepsy) – โรคง่วงนอนตลอดเวลา
วิธีดูแลตัวเองไม่ให้เกิดอาการนี้นะคะ
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้เรานอนหลับได้สนิทค่ะ
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนเยอะเกินไป
3. พยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด
4. นอนหลับให้เป็นเวลา
แต่หากมีอาการบ่อย ก็ควรที่จะไปพบแพทย์ หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุและอาการผีอำนะคะ จะได้ไม่ตกใจ และหลอน เมื่อมีอาการนี้ขึ้นมาค่ะ
[ads=center]
ข้อมูลจาก แนะแนวจิตวิทยา
เรียบเรียง ThaiJobsGov.com
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ