“สาธิต”ลุกแจงในสภาฯ เผยจีนไฟเขียวรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับ ไม่เกิน 4ก.พ.





เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง มาตรการของรัฐบาลในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยนพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ถามตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ตามข่าวที่ปรากฎออกมาพบว่า มีการระบาดของไวรัสเป็นอย่างมาก โดยมีศูนย์กลางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงต้องการสอบถามใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1.มีมาตรการรองรับเชื้อโคโรน่าหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร 2.มีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนตามแนวชายแดนอย่างไร เพราะทราบว่าไม่มีจุดคัดกรองตามจุดเหล่านี้ และ 3.มีมาตรการคัดกรองตามบริเวณแหล่งชุมชน เช่น โรงเรียนและโรงแรม เป็นต้น อย่างไร

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขเริ่มดำเนินการตั้งวอร์รูมมาตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมเพื่อติดตามสถานการณ์ในประเทศกลุ่มเสี่ยง ตั้งทีมคัดกรองและยกระดับในการคัดกรองผู้โดยสารจากเมืองอื่นๆของจีนด้วย ในส่วนของบุคคลที่ผ่านจุดคัดกรองแล้วพบว่า มีความเสี่ยงจะถูกกักตัวเพื่อคัดกรองตรวจโรคที่ห้องแลป ซึ่งมีการเตรียมแผน โรงพยาบาล ห้องปลอดเชื้อ เราซึ่งสามารถรองรับได้อย่างเพียงพอ เว้นแต่จะมีผู้ติดเชื้อหลักพันหรือหลักหมื่นเหมือนในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม แม้ในระยะฟักตัวของเชื้อไวรัสนั้น หากบุคคลใดมาจากเมืองที่มีการระบาด แม้เมื่อผ่านการคัดกรองและไม่มีความเสี่ยงก็จริง แต่เราจะการให้ใบเตือนเป็นภาษาจีนเพื่อให้คำแนะนำว่า หากมีอาการหรือความเสี่ยงสามารถไปเข้ารับการักษาในโรงพยาบาลได้ทันที

นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนจุดคัดกรองตามแนวชายแดน โดยเฉพาะจังหวัดตาก กรมควบคุมโรคมีเจ้าหน้าที่ที่ติดตามตรวจสอบอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรอง ขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อมูล อย่าตระหนกเกินไปแต่ต้องอยู่บนความไม่ประมาท เรามั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ในประเทศไทย และเราได้พยายามประสานงานกับรัฐบาลจีนตลอดว่าและคาดว่า จีนจะอนุญาตให้ส่งเครื่องบินเข้าไปรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่นได้ไม่เกินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หากสถานการณ์ไม่ได้ติดเชื้อหลักหมื่นคนเรามีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนการตรวจนักบินและลูกเรือนั้นเราได้ตรวจคัดกรองทั้งหมดเหมือนกับผู้โดยสาร

ขณะที่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง รัฐบาลจะมีวิธีการจัดการปัญหาในอนาคตเพื่อรองรับกับโรคอุบัติใหม่ได้อย่างไร รวมไปถึงแนวทางการสื่อสารกับประชาชนในสถานการณ์ของการระบาดของโรคจะทำให้เกิดมีประสิทธิภาพว่า ขณะนี้ประชาชนคาดหวังข้อมูลข่าวสารจากผู้นำ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว สื่อสารทำนองว่า มีการถอดเครื่องเทอร์โมสแกนออกจากสนามบิน ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความตระหนก ทั้งที่ยังมีการใช้เครื่องเทอร์โมสแกนอยู่ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกว่า ไม่ต่างกับการติดเชื้อหวัด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะเอกสารทางการแพทย์ระบุว่าต่างจากไข้หวัดธรรมดาแน่นอน จึงแสดงความเป็นห่วงถึงการสื่อสารที่ควรถูกต้องตามความเป็นจริง ทั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะล่าสุดก็เริ่มพบการติดเชื้อจากคนสู่คนแล้ว โดยเป็นคนขับแท็กซี่ติดจากผู้โดยสารจีน จึงอยากทราบว่ามีการระบาดจากคนสู่คนรายแรกในประเทศไทยแล้วหรือไม่ รวมถึงความฉับไวการตอบสนองต่อเหตุการณ์ อย่างการรับตัวคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น สามารถรับตัวนายทหารเรือ 26 คนได้ก่อน แต่ยังไม่สามารถรับตัวพลเรือนธรรมดาได้

ด้าน นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องการสื่อสารกับประชาชนได้ดำเนินการเป็นระยะ เช่น สถานการณ์ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวให้ประชาชนทราบทุกวัน รวมไปถึงการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนวิธีการสื่อสารกับประชาชนของนายกฯและรองนายกฯนั้น ตนไม่อาจไปตอบแทนได้ สำหรับเรื่องการขาดแคลนเจ้าหน้าที่นั้นได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นๆเพื่อเข้ามาร่วมกันทำงาน ห้องความดันติดลบของกรมการแพทย์มีจำนวนหนึ่งที่รองรับได้เพียงพอแต่หากมีเหตุจำเป็นก็ไปขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนได้ต่อไป ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลกในการควบคุมโรคระบาดเป็นรองประเทศที่เจริญแล้วไม่กี่ประเทศ ประกอบกับประสิทธิภาพของหน่วยงานทางการแพทย์ของเรา ตนมั่นใจว่าเรามีความพร้อมและสามารถการทำงานสามารถทำได้เต็มที่

นายสาธิต ชี้แจงว่า ส่วนกรณีที่มีคนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อโรคจากผู้โดยสายชาวจีนนั้น เบื้องต้นที่จะต้องตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การสรุปต่อไป เรื่องนี้อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลอยู่ ข้อมูลอาจจะล่าช้าเล็กน้อย เพราะต้องรอการตรวจสอบจากห้องแลป 2 แห่งให้ตรงกันก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่า ทุกอย่างโปร่งใส โดยไม่มีการปกปิดข้อเท็จจริง ส่วนกรณีของนายทหารเรือ 26 คนที่เดินกลับมาจากอู่ฮั่นนั้น ได้รับการชี้แจงจากกองทัพเรือว่า ช่วงที่มีโรคระบาดที่อู่ฮั่นเป็นช่วงเดียวกับเทศกาลตรุษจีน ทหารกลุ่มนี้ได้หยุดพักการทำงานและเดินทางไปท่องเที่ยวนอกเมืองอู่ฮั่น ภายหลังเดินทางออกนอกเมืองอู่ฮั่นปรากฎว่ามีการปิดเมืองอู่ฮั่นจนไม่สามารถเข้าเมืองอู่ฮั่นได้ พอเข้าเมืองไม่ได้จึงไปไปเมืองอื่นเพื่อติดต่อเที่ยวบินพาณิชย์เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: