เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเสรีรวมไทย เนื่องจากเห็นว่ากระทำการเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92(2) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยนายสนธิญากล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวในลักษณะข่มขู่ว่าในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯ ถ้า ส.ส.คนใดลงมติรับร่างจะดำเนินคดี ซึ่งหลังการลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ตนก็รอดูอยู่ 3-4 สัปดาห์ ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะดำเนินการตามที่ประกาศไว้หรือไม่ และคิดว่าคงจะไม่ดำเนินการแล้ว แต่เมื่อวานที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อที่จะฟ้องดำเนินคดี จึงเห็นว่าการกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่กำหนดให้การลงมติของ ส.ส.และ ส.ว.เป็นเอกสิทธิ์ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของบุคคลใดๆ รวมถึงยังเข้าลักษณะการกระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ผิดมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ กกต.ให้ดำเนินการ
“แม้ว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ จะผ่านสภามาแล้ว แต่การที่ท่านประกาศเช่นนั้นก็ถือว่าความผิดค่อนข้างสมบูรณ์และสำเร็จไปแล้ว ซึ่งผมขอฝากไปถึงท่านเสรีพิศุทธ์ว่าควรจะฟังท่านชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่ท่านบอกว่าเรื่องการใช้สิทธิของ ส.ส.และ ส.ว. ฟ้องศาล ศาลก็ไม่รับฟ้อง เพราะเป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ดังนั้น ผมจึงไม่มั่นใจว่าท่านเสรีพิศุทธ์จะใช้กฎหมายข้อไหนไปดำเนินการเอาผิด ส.ส.ที่ลงมติรับร่าง พ.ร.บ.งบฯ เพราะตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญก็กำหนดว่าบรรดากฎ ข้อบังคับ การประทำใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเป็นอันใช้บังคับไม่ได้” นายสนธิญากล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ