พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับกลางรายการ “ยุคล ขยี้ข่าวทอล์ค” ว่าเกษียณมาแล้ว 4 ปีทุกวันนี้ยังอยู่บ้านหลวง จ่ายค่าบำรุงเดือนละ 2,000 บาท บวกค่าน้ำค่าไฟ ที่ยังไม่ออกเพราะรอเก็บเงินดาวน์บ้าน ด้าน “ธนวัฒน์ วงค์ไชย” เรียกร้องนายพลหลังเกษียณทุกคนต้องออกจากบ้านหลวง ไม่ว่าจะเป็นประยุทธ์ ประวิตร หรือรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
ในรายการ “ขยี้ข่าวทอล์ค” ดำเนินรายการโดยยุคล วิเศษสังข์ ออกอากาศวานนี้ (14 ก.พ. 2563) โดยเชิญ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พูดคุยกันในหัวข้อ “ยุคล” ชน “พล.ท.พงศกร” เขย่ากองทัพ! ถึงเวลาต้องปฏิรูปให้สิ้นซาก (คลิกที่นี่เพื่อชมคลิป)
ทั้งนี้เป็นการจัดรายการหลัง จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุกราดยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชา แม่ยายผู้บังคับบัญชา และออกไปกราดยิงประชาชนที่วัดป่าศรัทธารวม และห้างเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อ 8 ก.พ. 63 จนมีผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 ราย โดยมูลเหตุยิงผู้บังคับบัญชาและกลายป็นเหตุกราดยิงประชาชน เกิดจากการกู้เงินกองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก จำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อมาซื้อบ้านซึ่งปลูกในที่ดินจัดสรรจากแม่ยายผู้บังคับบัญชา แต่ทหารชั้นประทวนคนดังกล่าวยังไม่ได้รับเงินส่วนต่างราคาบ้านคืน โดยไปทวงถามจากแม่ยายผู้บังคับบัญชา และผู้บังคับบัญชาหลายครั้งจนเป็นชนวนขัดแย้งนองเลือดดังกล่าว
ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงว่าจะดำเนินการแก้ไขการทุจริตในค่ายทหาร และการจัดการเรื่องบ้านพักสวัสดิการทหาร รวมทั้งให้นายทหารเกษียณออกจากบ้านพักสวัสดิการหลังเกษียณ เพื่อให้มีที่อยู่สำหรับนายทหารคนอื่นๆ
โดยในรายการ “ขยี้ข่าวทอล์ค” ยุคลถาม พล.ท.พงศกร โดยเปิดประเด็นว่า “พอพูดถึงเรื่องบิ๊กแดง ประเด็นของจ่าจักรพันธ์ที่มีปัญหาด้านหนึ่งคือเกิดมาจาก จ่าจักรพันธ์ไม่มีที่อยู่ ก็อยากจะได้บ้านของตัวเองสักหลัง” ด้าน พล.ท.พงศกรกล่าวว่า “ใช่ ทุกคนคิดเหมือนกันแหละ” จากนั้นพิธีกรถามต่อว่า “ทุกคนอยากมีบ้าน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นด้านหนึ่ง ผบ.ทบ.บอกว่ากองทัพ ก็พยายามจัดสรรบ้านที่เป็นสวัสดิการในค่ายทหารให้เพียงพอ แบบ 20-30 ปี แต่ดันไปเจอตอว่านายทหารที่เกษียณไปแล้วไม่ยอมย้ายออก ทำให้ทหารที่ตามมาด้านหลังมันเต็ม”
ด้าน พล.ท.พงศกร ตอบว่า “พูดจริงๆ นะเรื่องนี้เล็กมาก เพราะว่าผมก็โดนไล่บ่อย ไม่จริงเสมอไป กำลังพลที่ไม่ย้ายออกเป็นชั้นผู้ใหญ่มากๆ นายพลก็ยังน้อยๆ ระดับพลเอกอะไรพวกนั้น แต่เขาก็ออกนะ คือเขาให้เวลาอยู่ แต่เรื่องนี้เมื่อนับจำนวนคนแล้วมันเล็กน้อย ปัญหาท่านพูดไปลักษณะว่าที่อยู่อาศัยไม่พอ แต่ขณะนี้ปลูกสร้างเยอะนะ ปัญหาใหญ่ที่สุดผมคิดว่า กำลังพลพวกนี้เขาอยากมีบ้านข้างนอก”
พิธีกรจึงถามว่า “แล้ว พล.ท.พงศกร อยู่หรือเปล่าทุกวันนี้” พล.ท.พงศกรตอบว่า “อยู่ ขอผ่อนผันเขา เกษียณแล้ว แต่เดี๋ยวก็จะออกแล้ว อีกสักปีหน้า”
พิธีกรจึงถามว่า “อ้าว แล้วเป็นพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปกองทัพแล้วเราก็ยังอยู่ในกองทัพ ทั้งที่เราก็เกษียณ ขอโทษนะครับ เกษียณตั้งแต่เมื่อไหร่” พล.ท.พงศกร ตอบว่า “เมื่อ 4 ปีที่แล้ว”
จากนั้นพิธีกรถามว่า “ผมถาม พล.ท.พงศกร ทำไมไม่ออกล่ะ” ทำให้รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ตอบกลับว่า “ก็กำลังเตรียมออกอยู่ เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องที่ผมเสนอทำเมื่อตอนทำปริญญาโท คนที่ทำงานมาตลอดชีวิตแล้วไม่มีบ้านตัวเองเลย มีอยู่ ผมก็ทำหนังสือเสนอไปที่กองทัพบก ผมไม่มีบ้านเลย อยู่ในบ้านของคุณแม่ ซึ่งเราควรจะต้องอออก แต่เราก็มีเงินส่วนหนึ่งที่เราจะเตรียมออก”
โดยพิธีกรรายงานถามต่อด้วยว่า “ไม่กลัวเขาจะมาโจมตีหรือว่า นี่เป็นนายพลอนาคตใหม่ มาเสนอให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ แต่เกษียณมา 4 ปีแล้ว ยังอยู่ในบ้าน” ทำให้ พล.ท.พงศกร ตอบว่า “เราก็ต้องพูดให้ชัดเจนสิว่า เราจะทำให้ระบบใหญ่ เอาตัวของกองทัพมาเทคเอง แต่ที่เขากำลังพูดอยู่คือ ให้อยู่บ้านหลวงจนครบเวลา แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือให้มีที่อยู่ของเขาข้างนอก”
ทั้งนี้พิธีกรถามด้วยว่า “อยู่บ้านหลวง ค่าน้ำ ค่าไฟ จ่ายไหม” ทำให้ พล.ท.พงศกร ตอบว่า “จ่ายหมด มีค่าเช่าค่าบำรุงรักษาเดือนละ 2,000 ค่าน้ำค่าไฟตามอัตราปกติ” ทั้งนี้พิธีกรถามย้ำว่า “วันนี้มาพูดรายการนี้รายการแรกหรือเปล่า ไม่กลัวเขาจะมาโจมตีหรอว่าอนาคตใหม่เรียกร้องปฏิรูปกองทัพ นายพลรองหัวหน้าพรรคยังอยู่เลย ทั้งๆ เกษียณไปแล้ว”
ด้าน พล.ท.พงศกร ตอบว่า “ไม่กลัว ความจริงคือความจริงไง ความจริงก็คือว่า ผมไปคุยกับพันโทว่า ตัวของนายทหารพันตรี ปีหน้าเกษียณ เดี๋ยวผมไม่มีบ้าน ทำงานตลอดชีวิต ไม่มีอะไรขึ้นมาจากชั้นประทวน ผมเลยเสนอไปว่าเกษียณแล้วควรมีแหล่งให้เขาอยู่สัก 10 ปี เพื่อให้เขาเตรียมออก แล้วให้ลูกเขาโตพอที่จะมาดูแลเขาได้”
พิธีกรถามอีกว่า “เป็นนายพลเงินเดือนเท่าไหร่ แบบว่าเตรียมแผน” พล.ท.พงศกร ตอบว่า “เตรียมแผนน่ะมี ต้องพูดจริงๆ ว่าเราไม่มีรายได้พิเศษ ดังนั้นเราต้องมีรายได้พิเศษมาก้อนหนึ่ง ถึงจะมีเงินดาวน์” จากนั้นพิธีกรถามย้ำอีกว่า “วันนี้ออกมาแล้ว ให้เป็นความรู้วิทยาทานกับผู้ชม ยศพลโทอยู่ในกองทัพก่อนเกษียณเงินเดือนเท่าไหร่” พล.ท.พงศกร ตอบว่า “ก่อนเกษียณ 70,000” จากนั้นพิธีกรถามต่ออีกว่า “70,000 จ่ายค่าบำรุง ค่าน้ำค่าไฟ น่าจะไม่ถึงหมื่น แล้วอีก 60,000 เราไม่ไปผ่อนบ้านข้างนอก” ทาง พล.ท.พงศกร ตอบว่า “เราต้องเก็บไว้ก่อนสิ ไม่อย่างนั้นจะมีเงินดาวน์ที่ไหนล่ะ เราจะไปจ่ายอะไรขนาดนั้น นายพลที่เกษียณแล้วแต่อยู่ในค่ายทหารไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ต้องออก”
ในช่วงท้ายรายการ พล.ท.พงศกร เปิดเผยกับพิธีกร “ขยี้ข่าวทอล์ค” ด้วยว่าจะไปหาบ้านอยู่นอกค่ายทหารปีหน้า โดยจะไปอยู่ย่าน จ.นครปฐม
ด้านธนวัฒน์ วงค์ไชย นักศึกษาที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ได้โพสต์สเตตัสเฟสบุ๊คต่อกรณีดังกล่าวระบุว่า “ในความเห็นของบอล ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันครับ เราเรียกร้องให้ “นายพลหลังเกษียณ” ทุกคน ออกจากการพักอาศัยในบ้านหลวงได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นประยุทธ์ ประวิตร เป็น ส.ว. เป็นนายพลหลังเกษียณธรรมดาๆ หรือเป็นรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ครับ #ปฏิรูปกองทัพ”
คำกล่าวยอมรับว่ามีบ้านพักอยู่ในค่ายทหารของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่ในวันนี้ (15 ก.พ. 63) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าวเสนอมาตรการ “3 เปิด” เพื่อปฏิรูปกองทัพที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว หนึ่งในข้อเสนอคือ “1. เปิดชื่อ เรียกร้องให้เปิดชื่อทหารกษียณที่ยังใช้สวัสดิการบ้านว่ามีกี่คน เปิดเผยรายชื่อคนในกองทัพที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ สนามกอล์ฟ-โรงแรม ฯลฯ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่”
สำหรับข้อเสนออื่นๆ ได้แก่ “2.เปิดงบฯ เรียกร้องให้เปิดงบฯ ที่ใช้ในการบริหารธุรกิจของกองทัพ เช่น สนามกอล์ฟ จัดมวย หรือปฏิบัติการอื่นๆ เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้” และ “3.เปิดทาง เพราะกองทัพปฏิรูปกองทัพเองไม่ได้ นี่คือการโยนโอกาสที่จะปฏิรูปที่ดีสุดทิ้งไป ดังนั้นต้องเปิดทางให้ประชาชน สื่อ นักการเมือง ฯลฯ เข้าไปร่วมตรวจสอบติดตามและเสนอแนะ”
“ถ้าท่านต้องการปฏิรูปอย่างจริงใจ ท่านจะเจอแรงเสียดทานมหาศาล เพราะมีคนเสียบ้านพัก เสียทหารรับใช้ เสียธุรกิจมวยม้า ท่านจะสู้แรงเสียดทานอย่างไร ดังนั้นให้เราช่วยตรวจสอบ ช่วยกดดันนายพลที่จะเสียประโยชน์สิ” ธนาธรกล่าว
อ่านเพิ่มเติม : https://prachatai.com/journal/2020/02/86355
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ