ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าว่า งบการเงินปี 61 ของพรรคอนาคตใหม่ มีรายได้รวม 71.1 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 72.6 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 32.8 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจึงสูงกว่ารายได้ 1.4 ล้านบาท แต่กลับทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธร หัวหน้าพรรคถึง 191.2 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า แม้จะได้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วนหลายครั้ง แต่การชำระคืนครั้งแรก 14 ล้านบาท หลังทำสัญญากู้เงินเพียง 2 วันผิดปกติวิสัย
และสัญญาเงินกู้ 30 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อ ปี แต่วันในทำสัญญษรับเงินเพียง 2.7 ล้านบาท การทำสัญญาใหม่ทั้งที่มีเงินค้างชำระอยู่ จึงเป็นการกู้ยืมเงินเอื้อประโยชน์หรือช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการกู้เงิน จึงเป็นการให้ประโยชน์อื่นใด ซึ่งเมื่อรวมแล้ว ย่อมชัดแจ้งว่าเป้นกรณีการรับบริจาคเงินที่มีค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปีซึ่งต้องห้ามตาม มาตรา 66 วรรค2
ศาลจึงเห็นว่า การเป็นหนี้จำนวนมากย่อมจะเกิดการครอบงำ เกิดความได้เปรียบทางการเมืองมาเป็นข้อบงการพรรคแต่เพียงผู้เดียว พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง การกู้ยืมเงินจึงเป็นการหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน เมื่อขัด ม.66 จึงเป็นการขัดกับ ม. 72 ด้วย ซึ่งมีผลให้ยุบพรรรคอนาคตใหม่
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ