ขณะที่การเมืองระอุขึ้นทุกที นับแต่คดียุบพรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นำมาสู่การเคลื่อนไหวของนักวิชาการ และนักเรียน นักศึกษา
สารพัดปัญหาถาโถมในช่วงเวลานี้ ในมุมนักโหราศาสตร์ มองอย่างไร
โสรัจจะ นวลอยู่
โหรชื่อดัง ฉายา‘นอสตราดามุสเมืองไทย’
ดวงเมืองปีนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากๆ ไม่เหมือนปีก่อนๆ หลายเรื่องที่จะเกิดขึ้นโดยไม่เคยคาดคิด อิทธิพลจากดาวสำคัญที่เข้าลักขณา เช่น ดาวมฤตยู ตอนนี้สถิตอยู่ราศีเมษ คือลักขณาเมืองไทย ดาวมฤตยูคือ เลข 0 ซึ่งยังอยู่ไปถึง 7 ก.ค. 65 ถึงจะย้ายออก
ดังนั้น จากนี้ถึงปี 65 ก็อาจเกิดอะไรต่อเนื่อง แต่ปีนี้รุนแรงโดยเริ่มมาตั้งแต่ 2 มี.ค. เพราะดาวเสาร์ย้ายจากราศีธนูเข้าราศีมังกร ตั้งฉากกับดวงเมือง เหตุการณ์ต่างๆ ที่จริงเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คือดาวพฤหัสเข้าราศีธนูตอนปี 62 ดาวพฤหัสคือเลข 5 เข้ามาทับดาวเสาร์ปลายปี
แต่ 2 มี.ค. ดาวเสาร์ย้ายจากราศีธนูเข้าราศีมังกร เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นถึงความวุ่นวาย ถือว่าปี 63 เป็นปีมหาวิปโยค หรืออภิมหาวิปโยค
ด้านเศรษฐกิจ อย่างที่บอกปีนี้หนักมากถึงเรียกว่าอภิมหาวิปโยค จะวุ่นวายเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ข้าวยากหมากแพงมาก คนตกงาน หนี้สินทั้งระบบจะไปไม่ไหว ตลาดหุ้นอาจตกต่ำที่สุด ที่หนักมากคือเม.ย.ปีนี้ อาจหนักจนไอเอ็มเอฟเข้ามาช่วย ถือว่าปีนี้เผาจริง
ดาวพฤหัสขยับจากเดือนต.ค.ปีที่แล้วอะไรก็ชัดเจนขึ้น พอเข้าเดือนม.ค.63 ก็เริ่มจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ของทั่วโลก
อาจมีผู้เสียชีวิตเยอะมากเพราะเป็นโรคที่ต่อเนื่องยาวนานไปถึงปลายปี 64 แต่จะมีบางช่วงที่เงียบไป สำแดงฤทธิ์ช่วงมี.ค.และเม.ย.63 เป็นเดือนที่น่ากังวล สถานการณ์แรงทั่วโลก อย่าประมาท ต้องช่วยกันทำบุญเยอะๆ ทำทานการให้ชีวิต
พอเข้าเดือนพ.ค.อาจเงียบลง แล้วปลายพ.ย.จะกลับมาใหม่ ตอนนั้นดวงดาวมีราหูมาเสริมดาวเสาร์ เรื่องโรคระบาดอาจกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เหมือนมัจจุราช ยาที่มีอยู่อาจรักษาไม่ทัน เพราะโรคพัฒนาไปเร็ว เช่น เป็นไวรัสที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกจะทำให้คนเสียชีวิตเยอะทำลายเนื้อเยื่อมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง
จะเป็นไปถึงต้นปี 64 อาจนิ่งๆไปอีกพัก แล้วกลับมาอีกครั้งช่วงมี.ค.-เม.ย.64 ซึ่งใหญ่มาก ยาวไปถึงก.ค.และช่วงปลายปี 64 จะเบาลง ถึงตอนนั้นอาจจะเริ่มค้นพบตัวยา เพราะดาวเสาร์ ยังอยู่ 2 ปี 7 เดือน
นอกจากโรคระบาด อาจเกิดสงครามโลกได้ช่วงปลายปี 63 ซึ่งตอนนี้ก็เกิดแล้วเป็นสงครามเฉพาะถิ่น ซึ่งเริ่มตั้งแต่ม.ค.เป็นสงครามย่อยๆ ที่เริ่มเกิดไปทั่วโลก กลางปีก็เริ่มเกิดมากขึ้นควบคู่โรคระบาด
ส่วนการเมืองก็วุ่นวาย ดาวเสาร์ขึ้นมาตั้งฉากตั้งแต่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนี้ก็จะวุ่นวาย เกิดการขัดแย้งค่อนข้างรุนแรงม็อบเต็มบ้านเต็มเมือง แฟลชม็อบจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงคนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ คนยากคนจนอาจเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่
น่าจะเดือนพ.ค.อาจมีการนองเลือด ถ้าเป็นไปได้ควรช่วยกัน หันหน้าเข้าหากัน และถ้าเกิดอะไรขึ้นอาจเป็นครั้งใหญ่ มีการสูญเสียได้ ดังนั้นผู้นำรัฐบาลอย่าใจร้อน ควรรับฟังทุกคน รวมถึงเด็กรุ่นใหม่ด้วย
ดวงดาวจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ แล้วหยุดไม่อยู่ ปีนี้หนักมาก จะมีการยุบสภา ปฏิวัติใหญ่ช่วงพ.ค.ก็เป็นไปได้ หรืออาจเริ่มในเดือนมี.ค.แล้วไปเปรี้ยงปร้างในเดือนพ.ค. อาจเกิดอะไรขึ้นค่อนข้างรุนแรง และเกิดเรื่องใหญ่ๆขึ้นมาในประเทศเรา อาจใหญ่กว่ายุบสภา หรือปฏิวัติได้
การผ่านวิกฤตไปได้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะดาวมฤตยูอยู่ไปถึงปี 65 และปี 65 ทุกอย่างก็เป็นเรื่องดี แต่ปี 63 และปี 64 จะร้อนแรงตลอด ดังนั้นผู้นำรัฐบาลต้องลดลง เพราะเรื่องที่จะเกิดต่อไปนี้ถือว่าหนักกว่าเยอะ การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ผู้นำรัฐบาลจึงต้องใจเย็นๆ มีเมตตาและทำบุญ
ปัญหาที่รัฐบาลจะเจอ คือพวกเดียวกันเอง หมายถึงผู้ร่วมงานอาจหักหลังกัน แก่งแย่งชิงดี หาความสงบไม่ได้ เกิดการแตกแยกครั้งใหญ่ ก็เป็นจุดหนึ่งที่บ้านเมืองเกิดความโกลาหล และอาจเป็นจุดอ่อน ซึ่งจะหนักในเดือนเม.ย. และพ.ค.น่าจะยุบสภา หรือปฏิวัติครั้งใหญ่
เดือนมี.ค.เป็นเดือนก่อตัว จากนั้นม็อบจะเยอะมากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะไม่มีใครฟังใคร เกิดการขัดแย้ง จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ปัญหาจะมาจากภายนอกด้วยคือเศรษฐกิจ จะหาทางแก้ไขไม่ได้เลย เศรษฐกิจยิ่งแย่ลง จะมีคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ มีการปล้นสะดมเยอะขึ้น
รวมถึงภัยพิบัติ ความแห้งแล้ง ปีนี้จะหนักมาก โดยช่วงกลางถึงปลายปีฝนไม่ตกตามฤดูกาล ในเขื่อนจะไม่มีน้ำใช้ ทั้งน้ำทำการเกษตรและน้ำดื่ม และปลายปีน้ำจะมาก็มาเกิน ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง
และมีความหนาวเย็นแบบสุดๆ อย่างไม่เคยเกิดขึ้น อาจมีพายุลูกเห็บคล้ายๆ หิมะ และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในกทม.น่าจะประมาณเดือนก.ย.และต.ค.ปี 63
ทุกอย่างเป็นไปตามดวงดาว ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวตั้งรับ อย่าประมาท
บุศรินทร์ ปัทมาคม
โหรชื่อดัง
หลังวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย.63 ไปแล้ว ดวงเมืองจะอายุย่าง 238+1 = 239 ปี จึงทำให้จังหวะชีวิตของดวงเมืองตกปูม ดาวพุธ (4) เป็นบริวารจร จึงมีดาวอังคาร (3) ซึ่งเป็นเดชเดิม กลายเป็นกาลกิณีจร
คำทำนายเรื่องเดชเดิมเป็นกาลกิณีจร ก็คือ รัฐบาลหรือผู้นำประเทศจะมีอำนาจน้อยลง พระเดชหย่อนยานไป ไม่น่ากลัว หรือไม่น่าเกรงขาม ไม่น่ากลัวเหมือนแต่ก่อน จึงทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งกล้าเดินขบวนเรียกร้องผลประโยชน์ เป็นการชุมนุมเรียกร้องราคาสินค้า ผลผลิตที่ตกต่ำ หรือกล้าประท้วงรัฐบาลได้ตามที่มีความเดือดร้อน
เรื่องสำคัญก็คือ ต้องระวังการโคจรของดาวอังคาร (3) ซึ่งเป็นกาลกิณีจร เมื่อดาวอังคาร (3) จรโคจรขึ้นทับลัคนา (ลั) ของดวงเมือง ระหว่าง 8 ส.ค. ถึง 9 ต.ค.63 น่าจะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นประท้วง และต่อต้านรัฐบาลในช่วงเวลานี้
เรียกว่าช่วงเวลาที่ดาวอังคาร (3) จรโคจรทับลัคนา (ลั) จึงน่าห่วงว่าการประท้วง การต่อต้านรัฐบาลมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นในช่วงเวลานี้ ประชาชนที่รอคอยเรียกร้อง หรือจะประท้วงอะไรก็ตามจะหาพวกได้ง่ายขึ้น
สถานการณ์เรื่องเศรษฐกิจยังไม่วิกฤตมากที่สุด แต่จะทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ และจะรุนแรงยิ่งขึ้นหลังจาก 10 ก.ย. 63 ล่วงไปแล้วจนถึง 15 เม.ย.65
ช่วงเวลา 1 ปี 6 เดือน หลังจาก 10 ก.ย.63 ไปแล้ว ดาวราหู (8) จรจะโคจรเข้าไปในเรือนการเงิน หรือหลักทรัพย์ของดวงเมือง จึงอ่านได้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจของดวงเมืองจะเลวร้ายหนักขึ้น
หลังจาก 10 ก.ย. 63 เรื่องความอดอยากของชาวบ้านชาวเมืองต้องยุ่งยากและลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก สินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคบางตัวจะขาดแคลน หรือมีรายจ่ายสูงขึ้น ประชาชนจะเดือดร้อนหนักขึ้น ซึ่งน่าจะเกิดผลสืบเนื่องมาจากความแห้งแล้งของพื้นดิน จะเข้าตำราข้าวยาก คือหาซื้อได้ยาก หมากแพง ก็คือสินค้าเครื่องใช้หรือเครื่องอุปโภคราคาแพงขึ้น
ครั้งนี้ดาวราหู (8) จรโคจรเข้ามาล้วงทรัพย์ของดวงเมืองอีกวาระหนึ่ง จึงต้องมีเหตุร้ายในเรื่องเศรษฐกิจไม่น้อยไปกว่ากัน จะรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงปลายปี 63 หรือตั้งแต่ 10 ก.ย.63 เป็นต้นไป จนถึง 64 ทั้งปีด้วยจะไปถึง 15 เม.ย.65
ส่วนดวงรัฐบาล ดูได้จากดวงเมือง (ดวงกรุงเทพ) และดวงชะตาของหัวหน้ารัฐบาล คือดวงชะตาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดวงรัฐบาลดูได้จากการที่ดาวพระเคราะห์หลักโคจรถอยหลังกลับเข้ามาในเรือนศุภะของดวงเมือง ระหว่าง 17 ก.ค. ถึง 14 พ.ย. 63 ช่วงนี้รัฐบาลจะไม่สงบจะเกิดแตกความสามัคคีกันทุกองค์กร โดยเฉพาะแต่ละพรรคก็แตกแยกกัน ในรัฐบาลก็แตกแยกกัน
มีแนวโน้มว่ารัฐบาลหรือนายกฯต้องบริหารบ้านเมืองด้วยความยุ่งยากลำบากใจ ยากที่จะควบคุมสถานการณ์แต่ละพรรค และความสามัคคีในคณะรัฐบาลก็น่าจะเลวลง
ดวงพล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับงานก็จะบริหารลำบากหรือยุ่งยากไปจนถึง 5 ธ.ค.63 ดาวเสาร์ (7) ซึ่งเป็นดวงวิบากกรรมเดิมของดวงนายกฯ การบริหารจึงคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับประชาชนไม่เกรงกลัวรัฐบาลอีกด้วยจึงเหมือนมีศึกทั้งภายนอก ภายใน
วิกฤตเศรษฐกิจ ถ้านับระหว่าง 10 ก.ย.63 ไปจนถึง 15 เม.ย. 2565 เป็นช่วงเวลาที่ต้องเรียกว่าตกต่ำอย่างมากที่สุดแล้วในรอบ 18 ปี น่าจะไม่แย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ในชั่วชีวิตของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ว่าได้
พัฒนา พัฒนศิริ
ผู้เชี่ยวชาญการวางฤกษ์
ดวงประเทศตอนนี้ไม่ดีเท่าไรนัก พื้นดวงเมืองเดิม พฤหัส เสาร์อยู่ราศีธนู เป็นศุภะของดวงเมือง คือความเป็นอยู่ทั่วไป พฤหัสเป็นอำมาตย์ ขุนนาง ข้าราชการพลเรือน เสาร์คือทหาร ร่วมกันดูแลประเทศ
แต่ 2 มี.ค. เสาร์ย้ายไปเข้ามังกร ตำแหน่งเสาร์ดีกว่าตอนอยู่ธนู คือเสาร์เป็นเกษตร เข้มแข็งถึงระดับ 110-120 เปอร์เซ็นต์
เรื่องโควิด-19 ดาวพุธย้ายเข้าราศีกุมภ์ซึ่งเป็นธาตุลม โดยพุธเป็นดาวลมหายใจ หมายถึงอันตรายที่เกิดจากอากาศ หรือทางเดินหายใจ ปกติเรื่องเกี่ยวกับลมหายใจน่าจะเกิดจากอังคารปะทะพุธ แต่เผอิญอังคารย้ายเข้ามังกรไปปะทะเสาร์ที่ย้ายมาก่อน จึงเกิดโรครุนแรง
เชื่อว่าหลัง 13 มี.ค. สถานการณ์โรคโควิด-19 น่าจะเบาลง และหลัง 1 พ.ค. เรื่องโควิดน่าจะเหลือศูนย์ หรืออยู่ในจุดที่ไม่ต้องคาดจมูกแล้ว
แม้กลางเดือนมี.ค.สถานการณ์โรคจะเบาบางลง แต่ยังประมาทไม่ได้ยังต้องระวังเพราะมีดาวอื่นมากวนอยู่ ดาวเสาร์เข้ามังกรไปปะทะเล็งดาวจันทร์พื้นดวงเดิม ทำให้ประชาชนยังเดือดร้อน
การที่เสาร์เล็งจันทร์ซึ่งเป็นดวงเมือง แสดงว่าเราจะเดือดร้อนยิ่งยวดเรื่องน้ำ จะอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำอย่างสาหัส เป็นปัญหาหนักกว่าโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม การสถาปนาดวงเมืองให้เป็นดาวจันทร์ ซึ่งอยู่ราศีธาตุน้ำ อิทธิพลของดวงเมืองนี้จะช่วยคลี่คลายปัญหาลงได้บ้าง นานๆ ดวงเมืองจะเกิดแบบนี้ก็ต้องอดทน
ไทยมีลัคณาดวงเมืองอยู่ราศีเมษ จุดที่ทำให้เกิดเรื่องคือ พฤหัส เสาร์ จรมาอยู่ราศีธนู นักการเมืองเลยจับมือกันมั่ง ทะเลาะกัน ปีนเกลียวกัน โดยมีราหูอีกฟากฝั่งคือราศีมิถุน ส่งกำลังเล็งเบียน คืออยู่ตรงข้าม 180 % ทำให้เกิดความเดือดร้อนในสภา
เมื่อเสาร์ย้ายมามังกรแทนที่จะดี แต่ปรากฏฝั่งตรงข้ามราศีมังกรคือ ราศีกรกฎมีดาวจันทร์สถิตอยู่เสาร์เบียนจันทร์ทำให้จันทร์ลำบาก คือมีปัญหาเรื่องน้ำ เป็นปัญหาหนัก ขณะเดียวกันมีเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ติดตามมาด้วย
แล้วจะเกิดอะไรในบ้านเมือง เสาร์ซึ่งหมายถึงฝ่ายผู้มีอำนาจ มีอาวุธ เป็นทหารก็ได้ เป็นเกษตรที่เข้มแข็งยิ่งใหญ่ ย้ายไปอยู่มังกรไปเล็งจันทร์
1.ทำให้ปัญหาเรื่องน้ำเป็นปัญหาใหญ่ต่อไป
2.ขณะเดียวกัน ถ้าเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ทหารจะออกมา เราอาจไม่มีสภาอีกต่อไป หมายถึงการปฏิวัติซ้อนซึ่งตามดวงมีโอกาสเกิดได้สูงลิบเพราะทหารเป็นเกษตร แต่คิดว่าไม่นองเลือดเพราะฝ่ายตรงข้ามไม่มีอาวุธ ไม่มีใครไปแลก และเมื่อเกิดปฏิวัติใหม่ดวงผู้นำก็จะเปลี่ยนคน
นับแต่ 22 มี.ค. สถานการณ์จะแรงขึ้น นำไปสู่สถานการณ์สุกงอม เปิดช่องให้ใช้ข้ออ้างความวุ่นวายให้นำทหารเข้ามา โดยรัฐบาลทหารจะอยู่ไปอีกอย่างน้อย 2 ปีเศษ เท่าที่เสาร์อยู่มังกร อีกทั้งมีดาวถึง 5 ดวงกลุ้มรุม ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย รุนแรง ยึดอำนาจ
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องนี้แย่ยิ่งกว่า เสาร์เป็นดาวจำกัดจำนวน คือเป็นดาวของคนประหยัด มัธยัสถ์ พวกเก็บตัว ไม่ยุ่งกับใคร และไม่ค่อยฟังเสียงคนอื่น พอเสาร์กดจันทร์พื้นดวงเดิมทำให้จ๋อง จำกัดจำเขี่ยการกินอยู่ ถ้ามีปฏิวัติก็ขะมีระเบียบ กติกา ข้อห้ามเพิ่มขึ้นอีก
เศรษฐกิจตกมาเป็นปีแล้วไม่ใช่เพิ่งหล่น เพียงแต่ต่อไปนี้จะแย่ทุกกลุ่ม สภาพเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงเช่นนี้จะแย่ไปปีเศษๆ ข้ามไปต่อศกหน้าคือปี 64
สถานการณ์ของดวงเมืองที่มีสารพัดปัญหาถาโถมเช่นนี้ เพราะเสาร์ทับจันทร์นานๆถึงจะเกิดเ 15 ปี เสาร์จะเดินทับจันทร์ครั้งหนึ่ง
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ