7 อุปสรรคสำคัญที่ทำให้สอบราชการไม่ติด





ด้วยสวัสดิการและผลตอบแทนที่ค่อนข้างมั่นคงกว่าอาชีพอื่น จึงเป็นเรื่องธรรมดาหากว่างานราชการจะเป็นงานยอดฮิตที่ใครต่างก็ใฝ่ฝัน แต่เพราะจำนวนคนที่สนใจมากกว่าอัตราที่แต่ละหน่วยงานต้องการ การสมัครสอบเพื่อคัดสรรผู้มีคุณสมบัติพร้อมจึงจำเป็นต้องมีขึ้น

ภาพประกอบจาก huffingtonpost.com

แน่นอนว่าในการสอบแต่ละครั้งมีทั้งผู้ที่ผ่านและไม่ผ่าน

แน่นอนว่าคนที่ผ่านคือคนที่พร้อมที่สุด เตรียมตัวมาดีที่สุด

แต่ก็ใช่ว่าคนที่ไม่ผ่านจะเป็นคนไม่ดี หรือมีปัจจัยเดียวแค่ “ไม่พร้อม” เท่านั้น

มาดูกันอย่างละเอียดกันว่า อุปสรรคอะไรบ้างที่ทำให้สอบราชการไม่ติด

 

1. แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ทัศนคติ คือสิ่งสำคัญสำหรับการลงมือทำอะไรสักอย่าง การสอบก็เช่นกัน ก่อนจะกรอกใบสมัครสอบ คุณต้องวางทัศนคติให้อยู่ในทิศทางที่เป็นกลางไว้ก่อน เช่น

– อย่าปักใจกับข่าวลือว่ามีเส้นสาย ถ้ายังไม่ได้ลองด้วยตัวเอง

– อ่านรายละเอียดให้ครบทุกหน้าทุกลิ้งค์ก่อน อย่าเพิ่งตัดสินใจทั้งที่ยังไม่ได้อ่าน

– อย่ากลัวว่าจะแพ้คนมีเงิน ต่อให้คุณมีเงินแต่ขี้เกียจ ก็ไม่มีทางสอบได้
– อย่าเพิ่งคิดไปไกลว่าถ้าสอบติดแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเครื่องแบบ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ

 

จำไว้ว่า อคติคือสิ่งที่พรางตาความสำเร็จของคุณ ถ้าคิดจะลองสักตั้ง หวังไว้แล้วว่าอยากได้ อยากเป็น ต้องกำจัดมันทิ้งก่อนเป็นอันดับแรก

 

2. เริ่มแล้วถอดใจ

ก่อนจะเข้าไปถึงรอบติวเข้ม ไม่ว่าจะอ่านด้วยตัวเองหรือติวเพราะคอร์สสอนพิเศษ คุณต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองก่อน

– อย่าไปกลัวการเดินทางไกล ลองเสิร์ชหาเส้นทางหรือตั้งกระทู้ถามในอินเทอร์เน็ตอย่างถึงที่สุดก่อน หรือถึงแม้ว่าไม่มีใครตอบเลย ก็จงมั่นใจว่า “ไปถึงแน่นอน” เพราะสถานที่รับสมัครสอบและสนามสอบส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานที่ที่เป็นที่สังเกตได้ง่าย ไว้ไปถึงจริง ๆ ถ้าไม่รู้ค่อยถามคนในแถว ๆ นั้น

– อย่าเซนซิทีฟไปตามสถิติการสอบของปีก่อน ๆ และเสียงจากผู้เคยสอบ ฟังหูไว้หู อย่าปักใจเชื่อมากจนตัวเองรู้สึกแย่ กดดัน ด้อยค่า หรือต่อให้ปีก่อนจะเคยสอบแล้วแพ้ ก็อย่าเพิ่งตราหน้าตัวเองว่าเป็นพวกขี้แพ้ เก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้สำหรับเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ไม่แน่นะว่าคุณจะชนะในสนามนี้ ปีนี้ก็ได้

– อย่าสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองไม่อยากไปต่อ เช่น ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือเพราะอยู่ในช่วงมีปัญหาเรื่องส่วนตัว, เป็นคนจนไม่มีตังค์ไปติวต้องแพ้คนอื่นแน่เลย, ไม่เก่งคณิตต้องสอบไม่ผ่านแน่เลย, จำใจสอบทั้งที่ไม่ได้ชอบเลยสักนิด ฯลฯ สร้างแรงฮึดเข้าไว้ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันทำได้”

 

3. เดินทางต่อไปแล้วขี้เกียจ

ส่งใบสมัครไปแล้ว เริ่มอ่านเริ่มติวไปสักพักแล้ว หลายคนมักจะรู้สึกเหนื่อยล้าตาลายที่ต้องอ่านอะไรไม่รู้ซ้ำ ๆ เดิม ๆ พักบ้างก็ได้ แต่อย่านานจนกลายเป็นว่าหยิบหนังสือเมื่อไหร่แล้วรู้สึกงอแง จะนอนให้เต็มตื่น กินให้เต็มอิ่ม เที่ยวให้หนำใจให้ได้ ตราบใดที่ยังไม่สอบ คุณควรเสียสละ comfort zone ของตัวเองไว้ชั่วครู่ก่อน

…. ขณะที่เราพักผ่อน เล่นอยู่หลายชั่วโมง บางคนอาจนำหน้าเราไปหลายบทแล้ว
…. ขณะที่เรามัวแต่นอนหลับ บางคนอาจอ่านจนจบเล่มแล้ว

 

ถ้าเราอยากเดินนำคนอื่น ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่าเราสะสมฝีเท้าก้าวเดินไปมากรึยัง?

 

4. เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น มากกว่าสิ่งที่สัมผัสได้จริง ทำได้จริง

การบนบานศาลกล่าว ไหว้พระขอพรถือเป็นการสร้างเสริมกำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง แต่อย่าถึงขั้นเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากกว่าเชื่อในการกระทำของตัวเอง


… ถ้าสอบติด ขอให้เชื่อว่านี่คือผลของการกระทำตัวเอง จะน่าภาคภูมิใจกว่า

… ถ้าสอบไม่ติด อย่าคร่ำครวญว่าพระเจ้าไม่เข้าข้าง ความดีกับความสามารถมันคนละเรื่องกัน ถึงเป็นคนดีมากแค่ไหน ถ้าไม่พยายามก็ไร้ประโยชน์ที่จะเป็นผู้ชนะ เพราะผู้ชนะต้องเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง

 

5. ประมาทเกินไป

… อย่าแน่ใจว่าอ่านจบเล่มแล้วจะเป็นผู้ชนะ

…. อย่ามั่นใจว่าเก่งอยู่แล้ว ไปถึงห้องสอบก็ทำได้เองแหละ
…. อย่าแน่ใจนักหนาว่าเรื่องเส้นทางและที่พักใกล้สนามสอบ หาในวันใกล้สอบยังไงก็มี

ทะลายทิฐิของตัวเองลงบ้าง ตราบใดที่ยังไม่ถึงสนามสอบ อย่าเพิ่งออกตัวแรงเกินไป เส้นชัยไม่ได้มีไว้สำหรับคนจำพวกเสือนอนกิน

 

6. ไม่เคารพกฎกติกา

อย่าทำให้เรื่องส่วนรวมต้องวุ่นวายเพราะเรื่องส่วนตัว กฎระเบียบการสอบตั้งแต่การสมัคร, คุณสมบัติ, การแต่งกาย, อุปกรณ์การสอบ ควรรักษาให้เคร่งครัดเพื่อความสงบเรียบร้อยชองตนเองและคนอื่น ๆ ในสนามสอบเดียวกัน อย่าต้องมาตกม้าตาย เสียดายความรู้เพียงเพราะความผิดเล็กน้อยนี้เลย

 

7. ตื่นเต้นเกินไป

สมาธิและสติเป็นเรื่องสำคัญมากในสนามสอบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ อย่าตื่นตระหนกตกใจจนทุกอย่างรวนไปหมด ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ เช็คตัวเองให้ดีว่าหลงลืมอะไรไปรึเปล่า จงตั้งใจจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้ายของการสอบ และไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรชึ้น อย่าเสียใจหรือเสียดายในความเต็มที่ของเราที่มันผ่านไปแล้ว

 

ถ้าพยายามที่สุดแล้วก็ยังแพ้คนอื่น คิดซะว่าอย่างน้อยเราก็ได้ลองจนรู้ซึ้งด้วยตัวเองแล้ว บางทีมันก็แค่คุณอาจจะเหมาะกับงานอื่นมากกว่าเท่านั้นเอง ใช่ว่าตัวคุณเองเป็นคนไม่ดี ใช่ว่างานอื่นจะไม่ดี และใช่ว่างานราชการจะเป็นงานที่ดีที่สุด… ทุกงาน ทุกอาชีพที่มีความมานะพยายามและความสุจริตล้วนแต่มีคุณค่าในตัวเองเสมอ คิดบวกเข้าไว้ : )ุ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: