สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 (1 ต.ค.2563-30 ก.ย.2564) หลังจากเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 ครม.ได้มีมติเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 และให้ทุกส่วนราชการไปปรับปรุงรายละเอียดให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภัยแล้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายละเอียดของงบประมาณที่ปรับปรุงแล้ว พบว่าทุกกระทรวงและส่วนราชการยังคงได้รับจัดสรรงบประมาณตามกรอบเดิมที่ได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดการจัดสรรงบภายในกระทรวงคิดเป็นวงเงิน 5,003 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ กระทรวงที่มีการปรับปรุงรายละเอียดงบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กระทรวงมหาดไทย ปรับลดและปรับเพิ่มงบในกระทรวง 1,792 ล้านบาท จากงบที่ได้รับจัดสรร 329,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน ,กระทรวงกลาโหม ปรับลดและปรับเพิ่มงบในกระทรวง 1,374 ล้านบาท จากงบที่ได้รับจัดสรร 231,576 ล้านบาท ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับลดและปรับเพิ่มงบในกระทรวง 715 ล้านบาท จากงบที่ได้รับจัดสรร 30,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน
สำหรับรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณปี 2564 ที่ปรับปรุงแล้ว พบว่ามีการจัดสรรงบกลางไว้ที่ 574,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน
ส่วนกระทรวงที่ได้รับจัดสรรงบประมาณมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 กระทรวงศึกษาธิการ 3.61 แสนล้านบาท ลดลง 6,663 ล้านบาท หรือลดลง 1.8%
อันดับ 2 กระทรวงมหาดไทย 3.29 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.53 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.9%
อันดับ 3 กระทรวงการคลัง 2.69 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.01 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.1%
อันดับ 4 กระทรวงกลาโหม 2.31 แสนล้านบาท ลดลง 168 ล้านบาท หรือลดลง 0.1%
อันดับ 5 กระทรวงคมนาคม 1.95 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.89 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.7%
รายงานข่าวแจ้งว่า ตามมติครม.เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 ครม.มีมติให้ทุกส่วนราชการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณปี 2564 ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ แผนปฏิรูปประเทศ นโยบายสำคัญของรัฐบาล และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ระบาดในหลายประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและยาวนาน
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม.เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ทีผ่านมา โดยระบุว่า รัฐบาลได้สั่งการให้มีการเตรียมการเพื่อจัดหาเงินมาใช้สำหรับดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยการออกพ.ร.ก.กู้เงินฯ เนื่องจากงบประมาณปี 2563 มีอยู่อย่างจำกัด และงบกลางที่ได้รับจัดสรรมาก็ใช้มากพอสมควรแล้ว
“เราจำเป็นต้องหาเงินให้เพียงพอ ซึ่งอาจต้องใช้เงินกู้บ้าง เพราะงบประมาณปี 63 มีอยู่จำกัด งบกลางก็ใช้ไปพอสมควรแล้ว และเหลืออยู่น้อยมาก ตอนนี้จึงจำเป็นต้องจัดทำ พ.ร.ก.กู้เงินต่างๆ เพื่อเตรียมไว้สำหรับมาตรการระยะที่ 3 ที่ 4 โดยเราต้องดูแลประชาชนให้มากที่สุด” พล.ประยุทธ์กล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ