เป็นธรรมดาที่เราไม่สามารถเลือกเพื่อนร่วมงานได้เหมือนกับเลือกสมัครงาน แต่เพื่อเงินเดือน เพื่อความก้าวหน้าของชีวิต จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อเราต้องอยู่กับพวกเขาไปอีกนาน แต่…ก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลยสักนิดเดียว เราเลือกได้ว่าจะคบหากับใคร และเลือกได้ว่าควรจะให้คนประเภทไหนเป็นแค่คนรู้จักกันก็พอ
ถ้าคุณเจอเพื่อนร่วมงานประเภทต่อไปนี้ แค่ยิ้ม แค่พูดคุยกันผ่าน ๆ ได้
แต่อย่าเปิดโอกาสให้เขามาสนิทกันมากไปกว่านี้เลย ไม่อย่างนั้นชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานของคุณพังแน่ !
1. ขี้นินทาไม่เลือกหน้า
ใครต่างก็ชอบคนช่างคุยช่างเม้า แต่ถ้าความสามารถสูงถึงกับหูไวตาไวไปซะหมดไม่เลือกหน้า นินทาได้ตั้งแต่คนที่ตำแหน่งต่ำกว่า, ลูกค้าขาจร, เพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกัน ไปจนกระทั่งเจ้านาย ฟังหูไว้หู แค่เออออเอาเป็นพิธีก็พอ อย่าเข้าไปสนิทหรือเปิดโอกาสให้เขารู้เรื่องส่วนตัวของเรามาก เพราะในสักวัน เรานั่นแหละที่จะถูกตกเป็นเป้าให้รุมทึ้งกันสนุกปาก
2. หลงตัวเอง
ปล่อยวาง อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากกับคนที่ขี้อวด ขี้โม้ ราคาคุยไปวัน ๆ คนประเภทนี้แหละที่ลึก ๆ แล้วขี้อิจฉาเป็นเลิศเขาถึงได้สร้างตัวเองให้เป็นคนที่เพอร์เฟคที่สุด ให้มีแต่คนรักคนชม ไม่ชอบให้ใครมาเทียบเท่าหรือเหนือกว่าตัวเอง คุยกับคนที่เป็นน้ำเต็มแก้ว ยังไงก็เหนื่อยเปล่า ๆ
3. ชอบหาพวก
ไม่ว่าจะดราม่าเรียกคะแนนสงสาร หรือคอยนำเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาเล่าสู่กันฟังอย่างสนุกปากเพื่อหาเพื่อน อย่าเทใจให้กับคนประเภทนี้เลย ในมุมหนึ่งอาจจะดูน่าสงสารที่ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่งเขานี่แหละตัวร้าย นกสองหัว รักตัวเองมากกว่าคนอื่นถึงต้องคอยให้คนอื่นเป็นเกราะกำบังให้ คนไหนดีกว่าก็ไปหาคนนั้น เปลี่ยนเพื่อนไปเรื่อยโดยไม่สามารถบอกได้เลยว่าเพื่อนแต่ละคนมีดียังไงบ้าง เชื่อสิว่าถ้าท้าให้เขายกตัวอย่างเพื่อนแท้สัก 1-2 คน เขานึกไม่ออกหรอก
4. โดดงาน หนีงาน
มันอาจจะเป็นเรื่องขำ ๆ ที่ได้รู้ว่าเพื่อนร่วมงานแอบโดดงานไปทำอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เหตุจำเป็น แต่ในมุมของการทำงานที่จริงจัง ในมุมขององค์กรที่จะต้องรับผิดชอบความเสียหายขณะที่พนักงานคนนั้นไม่อยู่ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าขำแต่อย่างใด คิดเอาละกันว่าเราจะสามารถเรียกเขาว่าเพื่อนได้เต็มปากหรือไม่ ตราบใดที่เขาห่วงความสบายมากกว่าห่วงทีมเดียวกัน
5. พลิกลิ้น โกหกไปเรื่อย
คนเรามีสิทธิที่จะปิดบังกันได้ในเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นทราบจริง ๆ คนอื่นรู้ในภายหลังแล้วบอกความจริงได้อาจจะเฉย ๆ ด้วยความเข้าใจบ้าง แอบเคืองบ้าง แต่ก็ยังไม่น่าเสียความรู้สึกได้มากเท่ากับคนที่พลิกลิ้นตลบตะแลงไปเรื่อย พูดกับคนหนึ่งแบบหนึ่ง แล้วไปพูดกับอีกคนแบบหนึ่ง คนแบบนี้จัดประเภทให้เขาเป็นแค่คนรู้จักก็ดีมากพอแล้ว ไม่ควรค่าแก่การฝากความหวังอะไรมากนัก ทั้งภารกิจงานของบริษัทที่ต้องอาศัยความเคร่งครัดสูงและมิตรภาพที่ต้องใช้หัวใจเข้าแลก
6. ต่อหน้าอย่างหนึ่ง ลับหลังอย่างหนึ่ง
ยังพอจะเข้ากันได้ว่าคนเราบางทีก็ไม่สามารถพูดกันตรง ๆ ด้วยเพราะความเกรงใจกันบ้าง ด้วยเพราะไม่อยากรู้สึกแย่ไปกว่านี้บ้าง แต่ก็ไม่ควรเป็นประเภทไม่ระวังตัว จะพูดต่อหน้าแบบไหนก็ได้ แล้วนำไปลงโซเชียลยังไงก็ได้ คนแบบนี้คบไปก็มีแต่เสียกับเสีย เราแค่ยิ้ม ทักทายกันตามปกติก็ถือว่าดีมากพอแล้ว
7. เห็นผลประโยชน์สำคัญกว่ามิตรภาพ
ใครก็อยากได้ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานกันทั้งนั้น แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยการกั๊กเพื่อน เหยียบเพื่อน ขัดขาเพื่อน บล็อกทุกวิถีทางเพื่อตัวเองคนเดียว ก็ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวให้สมใจอยาก การงานที่สำเร็จแล้วโดดเดี่ยวเหมือนอยู่บนหอคอยสูงหนาว ย่อมเสี่ยงบาดเจ็บมากกว่าทีมเวิร์กที่ไม่สูงมากมาย แต่ก็ยังช่วยกันแบ่งรับแบ่งสู้กันไป
คนเราย่อมมีนิสัยดีและไม่ดีปะปนกันทั้งนั้น แต่ใครแสดงออกมาแบบไหน เราก็เลือกได้ว่าจะรับหรือจะไม่รับแบบไหนเข้าตัวเอง อย่าโทษคนอื่นฝ่ายเดียว ทุกอย่างที่เกิดขึ้น บางทีเราก็มีส่วนให้เกิดเหตุ ถ้าเราไม่เปิดโอกาสซะอย่างสำหรับสิ่งไม่ดี มันก็จะกองอยู่ตรงนั้น ไม่ตามเรามาได้ง่ายแน่นอน … สำหรับสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ ขอให้รักษาไว้นานเท่านาน เพราะเราอาจหาดี ๆ แบบนี้ไม่ได้อีก : )
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ