11 คำพูดต้องห้ามของคนเป็นแฟนกัน





ถึงแม้ว่าบางอย่างไม่ใช่แฟนทำแทนกันไม่ได้ ก็ใช่ว่าคนเป็นแฟนจะทำทุกอย่างได้หมด ตรงกันข้าม ยิ่งสนิทกัน รักกันมากเท่าไหร่ การให้เกียรติกันและเกรงใจกันก็ควรมีเสมอ เพราะเราและเขาต่างก็อยู่กันคนละร่าง มีใจกันคนละใจ มีความคิดกันคนละแบบ จะให้เหมือนกันเป๊ะทุกอย่างเป็นไปได้ยากแน่นอน


feat-shout-88

ภาพประกอบจาก growthtrac.com
 

สำคัญที่สุดของความรักคือเรื่องของจิตใจ ใช่ว่าจะต้องหยอดคำหวานเท่านั้น
การระวังคำพูดไม่ให้พูดในสิ่งต่อไปนี้กระทบจิตใจกัน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

 

1. “คนอื่นเขายังทำให้ได้เลย”

เปลี่ยนมาเป็น “ทำไม่ได้ไม่เป็นไรนะ เราไม่ซีเรียส” คนฟังยังจะพอรู้สึกมีหวัง มีกำลังใจฮึดอยากลองใหม่ขึ้นมาเยอะ อย่านำแฟนเราไปเปรียบเทียบกับแฟนคนอื่น เพราะบางทีแล้วเราไม่รู้เลยว่าเขาอาจจะพยายามถึงที่สุดแล้วได้แค่นี้ แต่เรากลับคาดหวังเขามากเกินไปเอง

 

2. “ให้ได้แค่นี้หรอ?” / “มีปัญญาทำแค่นี้หรอ?”/ "คุณนี่มันไม่ได้เรื่องเลย"

ถึงจะไม่นำไปเปรียบเทียบใคร และถึงแม้จะพูดเล่นก็ไม่ควรพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งที่เขาทำให้ เขาอาจจะทุ่มสุดตัวแล้วก็ได้ ขึ้นชื่อว่าให้ อย่างไรก็เป็นเรื่องของน้ำใจที่ดี ไม่ควรลบหลู่ดูถูกกันจนดูว่าความพยายามนั้นเป็นศูนย์เลย ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะไม่พยายามหาอะไรให้เราอีก เพราะเราเป็นคนไปเบรกเขาเอง

 

3. “จะไปไหนก็ไป” / “ไปตายไหนซะ”

ถ้ายังรักกันอยู่ อย่าพูดคำนี้เด็ดขาด เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณยั่วยุผลักไสเขาออกไปจากชีวิตให้เร็วขึ้น ต่อจากนาทีชั่ววูบนี้ไป คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะออกไปเจออุบัติเหตุหรือไม่? เกิดอะไรกับชีวิตของเขา? หรือเขาจะคิดมากถึงกับทำร้ายตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่พูดจริง คุณนั่นแหละจะเป็นคนที่เสียใจที่สุด โมโหมากแค่ไหนอย่าปากเปราะพูดคำนี้ออกมาเด็ดขาด

 

4. “นี่มันเรื่องของฉัน”

ถึงแม้ว่าบางเรื่องมันจะเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ คุณควรอธิบายดี ๆ มากกว่าการด่าอ้อม ๆ ว่า “คุณน่ะเสือก” ต้องยอมรับว่าชีวิตคู่มันไม่มีอะไรส่วนตัวไป 100%หรอก ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่ากับตัวคุณหรือกับตัวเขา ต้องมีการแชร์กัน บอกกันให้รับรู้เสมอ ส่วนสิทธิในการจัดการ ถ้ารักกันจริงย่อมเข้าใจกันอยู่แล้วว่าเรื่องของใครของมัน หน้าที่ใครหน้าที่มัน โดยไม่ต้องกำชับให้เมื่อยปากหรือเสียความรู้สึกเลย

 

5. ดูถูกเรื่องงาน, เพื่อน, และครอบครัวของเขา

ถึงจะไม่ชอบขี้หน้าคนของเขาและงานของเขายังไงก็ตาม ต้องอย่าลืมว่านั่นมันเรื่องของเขา และบางทีแล้วสิ่งเหล่านั้น คนเหล่านั้นก็มาก่อนเราเสียอีก การจะไปก้าวก่ายกัน เปลี่ยนความคิดกันใหม่มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกินไปหน่อยที่คนหนึ่งจะต้องยอมเพื่อคุณเพียงคนเดียว เคารพการตัดสินใจของเขาเถอะ เขาจะทำอย่างไร จัดการแบบไหนก็เรื่องของเขา ตราบใดที่เรายังคอยรับฟังเสมอเวลาที่เขาต้องการจะแชร์เรื่องราวต่าง ๆ นั่นมันก็เพียงพอแล้วสำหรับคนเป็นแฟนกัน

 

6. ล้อเลียนปมด้อย

โดยเฉพาะกับความเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว หรือพิการเพราะเหตุใดก็ตาม คุณอาจจะหวังดีอยากให้เขาหัวเราะ ลืม ๆ ปมด้อยตัวเองไปซะ แต่หารู้ไม่ว่าบางทีมันก็เป็นการตอกย้ำปมด้อยตัวเขาให้เจ็บลึกไปกว่าเดิม อย่าว่าแต่ในฐานะคนเป็นแฟนกันที่ทำไม่ได้เลย แม้แต่พ่อแม่และเพื่อนสนิทของเขา ก็รู้ดีว่าจุดนี้ไม่ควรนำมาล้อเล่นเป็นเรื่องสนุกปาก

 

7. ดูถูกรสนิยมส่วนตัว

เช่น ของแต่งรถ, อุปกรณ์ไอที, อุปกรณ์ดนตรี, การแต่งตัว, บทรักบนเตียง, เครื่องสำอาง ฯลฯ อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่แฟนคุณชอบ แต่คุณรู้สึกขัดหูขัดตา ควรคุยกันดี ๆ ว่ามีอะไรที่ควรปรับหรือเปลี่ยนเพื่อให้ดูดีขึ้นจริงบ้าง อย่าทำเหมือนว่าคุณเป็นพ่อ/แม่แล้วเขาเป็นเด็กตัวน้อย ๆ ที่ต้องสอนกัน ทับถมกันราวว่าคุณน่ะถูกอยู่ฝ่ายเดียว โตกันเป็นผู้ใหญ่แล้ว พูดกันให้เหมือนเพื่อนเตือนเพื่อนจะดูดีกว่า

 

8. พูดโกหก

ต่อให้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือคิดว่าจะทำให้สบายใจ อย่างไรก็ไม่สู้พูดความจริงออกมา ถ้าคุณมีเหตุผลพอ ยังไงเสียคนเป็นแฟนกันย่อมรับฟังและเข้าใจได้อยู่แล้ว และดีกว่ารู้ทีหลังแล้วเสียความรู้สึกและความเชื่อใจแน่นอน
 

9. อ้างถึงเรื่องเพศ เช่น “คุณนี่ไม่แมนเลย”, “คุณมันไม่มีความเป็นผู้หญิงเลย”, “เป็นลูกผู้ชายรึเปล่า?”

คุณค่าของคนไม่ควรวัดกันว่าเป็นหญิงหรือชายได้เปรียบกว่ากัน ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องถกเถียงกันอีกยาว เพราะอย่างไรก็ไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าจะพูดคุยกันให้โฟกัสไปที่ความสามารถในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เหมือน ๆ กันจะง่ายกว่าเยอะ บางทีแล้วนิยามความเป็นสุภาพบุรุษ/กุลสตรี คนเราก็แค่คิดขึ้นมาเองงั้น ๆ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้เพศตัวเองในแบบที่เข้าข้างตัวเองเกินไป


10. เปรียบเทียบกับแฟนเก่า

ต่อให้อีกฝ่ายใจกว้างแค่ไหนก็อย่าพูดบ่อย ๆ เพราะมันเหมือนว่ายังตัดใจจากอดีตไม่ได้เลยจำได้ดีทุกช็อต ทุกรายละเอียด ถ้ามีความสุขกับคนปัจจุบันจริง ๆ เลิกพูด เลิกนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ว่าจะแฟนเก่าหรือคนอื่น ๆ ทั่วไป
 

11. ด่าทอ พูดหยาบบ่อยครั้ง

ถึงแม้ว่าหลายคู่ในปัจจุบันจะอยู่กันฉันท์เพื่อนที่สามารถพูดคุยแบบหยาบคายกันเล่นได้ แต่ก็อย่าให้คำหยาบมันมากกว่าความสุภาพ อย่ามากไปจนไม่รู้ว่าเวลาไหนควรหรือไม่ควรพูด การพูดผิดกาลเทศะนอกจากจะชักนำไปสู่การหมางใจกันบ่อยครั้ง มันยังทำให้ตัวคนพูดเองดูไม่ดีในสายตาคนภายนอกด้วยเช่นกัน
 

ต้องปฏิเสธไม่ได้ว่าสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ไม่ต้องถึงกับหักดิบเป็นคนเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบเลย แต่ขอให้รู้กาลเทศะกันบ้างก็พอแล้ว ที่สำคัญก็คือ เมื่อใดก็ตามที่สติหลุด ควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องเผลอพูดคำไม่ดีออกมาทำร้ายจิตใจกัน ควรมีคำ “ขอโทษ” ทุกครั้ง และ “ขอบคุณ” กันที่ยังไม่ทิ้งกันไปไหน… หัวใจคนเรามันบอบบางเกินกว่าจะอดทนได้ทุกครั้งไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: