เมื่อวันที่ 2 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงโครงการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือนนั้นว่า ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ประเมินว่าน่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 3 ล้านคน แต่จนถึงบัดนี้มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากถึง 22 ล้านคนแล้ว เกินเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยอดการลงทะเบียนมากถึง 22 ล้านคนนั้น อาจจะมีเพิ่มขึ้นถึง 30 ล้านคน น่าจะมาจากเหตุผล 2 ส่วนคือ
1.เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจำนวนมากจริงๆ เกินกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ 2.เป็นความต้องการเงินของประชาชนจากรัฐบาล เพราะเห็นว่าเมื่อรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายแจกเงินบ่อยๆ ก็ขอใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนคนไทย ขอรับเงินจากรัฐบาลด้วยโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติว่ามีสิทธิ์หรือไม่
“จากจำนวนตัวเลขของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 22 ล้านคน น่าจะเป็นตัวเลขเบื้องต้นเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงจะมีประชาชนเดือดร้อนในวิกฤตไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ มีจำนวนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ การเยียวยาช่วยเหลือรายได้ของประชาชน เพียง 3 เดือนของรัฐบาล คงไม่เพียงพอสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อนานมากกว่า 6 เดือน ซึ่งรัฐบาลยังต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดเมือง เพื่อประชาชนหยุดอยู่บ้าน หยุดทำงาน แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายประจำวันทุกวัน และจากตัวเลขทางเศรษฐกิจพบว่า ประชาชนคนไทยจำนวน 70% มีเงินเก็บเฉลี่ยคนละไม่เกิน1แสนบาท และนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 5 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยืดเยื้อออกไปอีก6เดือนถึง1ปี ก็จะกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวน 70% ของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลอย่างแน่นอน”นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ดังนั้นมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 เดือน คงไม่เพียงพอ อาจจะต้องขยายเวลาออกไป และอาจจะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายอีกหลายกลุ่มด้วย ซึ่งเป็นภาระที่หนักหน่วงของรัฐบาลในการหางบประมาณมาช่วยเหลือประชาชน
ส่วนตัวขอให้กำลังใจและให้ความร่วมมือช่วยเหลือรัฐบาลอย่างเต็มที่ในเบื้องต้นได้นำเงินเดือน ส.ส.จำนวน 2 เดือน จัดซื้อหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ แจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาลในทางอ้อม และเชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกัน เราก็สามารถแก้ปัญหา และนำพาประเทศชาติ ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ