เผย158รายชื่ออยู่ในมือตำรวจแล้ว พร้อมดำเนินคดี-กักตัว

Advertisement

จากกรณีกลุ่มคนไทยนับร้อยคน เดินทางมากลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล ซึ่งจัดสถานที่ไว้รอรับที่ อ.สัตหีบ และ โรงแรม อีก 2 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร และเรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาคุมสถานการณ์แล้วอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน แม้ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะคัดค้าน เนื่องจากในผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว มีผู้โดยสาร 3 ราย ที่มีไข้สูง ได้อาศัยช่วงชุลมุนหนีกลับบ้าน จนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศ ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยชั่วคราว เป็นเวลา 3 วันระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน และล่าสุด สามารถจับตัวได้แล้วที่บุรีรัมย์ 2 ราย อีก 10 ราย ประสานขอเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล และตามตัวได้อีก 1 รายนั้น

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรท.ผบก.ตม.2 ได้ทำหนังสือถึงผบช.สตม. (ผ่านศปก.สตม.) เรื่องส่งรายชื่อผู้โดยสารหลีกเลี่ยงที่ขึ้นรถบัสเพื่อไปกักตัวในสถานที่ที่ราชการจัดเตรียมไว้

ความว่า ตามที่ได้มีข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 11 มาตรการป้องกันโรคกำหนดให้เจ้าหน้าที่อาจเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ และนำมาตรการคุมไว้สังเกตหรือมาตรการกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อมาใช้แก่บุคคลบางประเภทหรือบางคนได้ตามความจำเป็น นั้น

นื่องจากในวันที่ 3 เมษายน 2563 บก.ตม. 2 ได้ตรวจอนุญาตผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทงาจากต่างประเทศ จำนวน 158 ราย (ตามบัญชีรายชื่อที่แนบ) ซึ่งต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้โดยสารดังกล่าวปฏิเสธไม่ยอมขึ้นรถบัสเพื่อไปกักตัวตามข้อกำหนดดังกล่าว และแยกย้ายกลับภูมิลำเนา ดังนั้น บก.ตม.2 จึงเรียนมายังท่านเพื่อพิจารณาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตาม เพื่อกักตัวผู้โดยสารดังกล่าวต่อไป

ตามหนังสือดังกล่าว ปรากฏรายงานสถิติผู้โดยสารขาเข้าแยกตามเที่ยวบิน ประจำวันที่ 3 เม.ย.2563 และจำแนกตามจังหวัด ดังนี้

รายงานข่าวแจ้งก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวเลข 166 คน นั้น ข้อเท็จจริงมีจำนวน 158 คน

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

• Facebook
• Twitter
• Line