วันที่ 8 เม.ย. 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังคาดจะคัดกรองผู้ที่มาลงทะเบียน เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อเดือน ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ลงทะเบียนล่าสุด 24.8 ล้านคนแล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 12 เม.ย.2563 โดยตอนนี้มีผู้ผ่านการเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 1.68 ล้านคน ในกลุ่มนี้จะเร่งทยอยโอนเงินช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 8-10 เม.ย.นี้ และตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะทยอยโอนเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทุกวัน ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ และกลุ่มที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม จะส่งเอสเอ็มเอสแจ้งในช่วงวันที่ 11-12 เม.ย.นี้
“การจ่ายเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทจะคงไว้ที่ 3 เดือนก่อน ส่วนที่ขยายไปอีก 6 เดือน จะพิจารณาตามความจำเป็นของสถานการณ์ เนื่องจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนใช้เยียวยา 6 แสนล้านบาท กำหนดให้กระทรวงต้องมีการเสนอโครงการเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง และเสนอความเป็นให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์โควิดอาจจะสิ้นสุดเร็วหรือช้ากว่าที่คาด ไม่มีใครรู้” นายลวรณ กล่าว
“พ.ร.ก.กู้เงินที่ออกมานั้น ทำให้รัฐสามารถเยียวยาประชาชนได้ถึง 6 เดือน แต่จะดูแลกี่เดือนนั้น ขออนุญาตประเมินผลอีกครั้งหนึ่ง เพราะอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร สถานการณ์วิดจะดีขึ้น หรือร้ายแรงจะพิจารณาประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 และรัฐบาลจะประเมินอีกครั้งว่าดูแลครอบคลุมทุกกลุ่มหรือไม่ หากมีกลุ่มที่เดือดร้อน รัฐบาลก็จะพิจารณาดูแลเพิ่มเติม ซึ่งยืนยันว่าเงินเยียวยา 6 เดือนมีพร้อม แต่หากจะมีโครงการอื่นเข้ามาดูแลเพิ่มเติมก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง” นายลวรณ กล่าว
โฆษกกระทรวงการคลัง ได้มีการการสอบถามธนาคารกรุงไทยชี้แจงว่า ระบบจะเริ่มส่งเอสเอ็มเอสแจ้งผลให้กลุ่มที่เป็นสีแดง คือไม่ได้เงินแน่นอน กับกลุ่มสีเทาคือ ต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติม ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์นี้ ส่วนผู้ที่ได้เงินแน่นอนจะส่งเอสเอ็มเอสได้ช่วง 8-10 เม.ย.
นายลวรณ กล่าวว่า ระบบคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ สามารถคัดกรองผู้ที่ควรได้รับเงินช่วยเหลือจริง แต่ขอให้เข้าใจว่า เนื่องจากระยะเวลาในการเตรียมมาตรการมีน้อย ทำให้ไม่สามารถวางระบบตรวจสอบเข้มงวดได้ เพราะจะใช้เวลามาก ทำให้คนได้รับเงินช่วยเหลือล่าช้า แต่ในกลุ่มที่ได้เงินไปแล้ว คลังก็จะมีระบบตรวจทานซ้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องคืนเงินภายใน 90 วัน ซึ่งกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณาในโซเชียลมีเดีย ทีมกระทรวงการคลังจะเก็บข้อมูลไปดูทั้งหมด
ทั้งนี้ มี 4 กลุ่มที่ยืนยันว่ากลุ่มแรกได้รับเงินช่วยเหลือ คือ กลุ่มอาชีพรับจ้างทั่วไป และค้าขาย ซึ่งมีสัดส่วนสูงสุด ไม่ได้เน้นจ่ายกลุ่มที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ 4 กลุ่ม คือ ผู้ค้าสลาก มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ และมัคคุเทศก์ เป็นการเฉพาะ
นายลวรณ กล่าวว่า การโอนเงินในกลุ่มที่ไม่มีปัญหา จะส่งเอสเอ็มเอสแจ้งและทยอยโอนเงินเข้าบัญชีตามปกติ ในรายที่มีปัญหาเลขบัญชีไม่ตรงจะมีปุ่มหน้าเว็บไซต์ให้แก้ไขเลขบัญชี เพื่อให้โอนเงินเข้าได้ ส่วนกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์แน่นอนจะมีเอสเอ็มเอสแจ้ง และไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผิดหลักเกณฑ์มาตรการ เช่น กลุ่มอายุไม่ถึง 18 ปี กลุ่มแม่บ้าน ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ข้าราชการ-บำนาญ เกษตรกร นักเรียนนักศึกษา กลุ่มค้าขายออนไลน์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะให้กรอกเอกสารออนไลน์ ชี้แจงข้อมูลในประเด็นที่ได้มีการสอบถาม
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ