วันที่ 10 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสภาวะทางเศรษฐกิจในขณะนี้ว่า ในรอบ 1-2 เดือนนี้ ราคาน้ำมันทุกชนิดได้ลดราคาลงตามลำดับ ลดลงลิตรละ 7-10 บาท และวันนี้นำ้มันก็ลดราคาอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่สามารถนับครั้งได้แล้ว แต่ราคาสินค้าทุกชนิด ค่าขนส่ง ค่ารถโดยสาร รถสาธารณะ ไม่มีการลดลงตามราคาน้ำมันในท้องตลาด ตนจึงได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกร้องทุกข์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ด้วยเหตุผลดังนี้
1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานศูนย์ ศอฉ.โควิค 19 ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจเบ็ดเสร็จตามประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้สั่งการให้ทีมเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เช่น กระทรวงการคลัง, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์ ได้บูรณาการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ลดค่าขนส่ง และลดค่าโดยสารรถสาธารณะโดยเร็วที่สุด
2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบกวดขัน ไม่ให้มีการกักตุนสินค้า ได้ใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปดูแลราคาสินค้า นอกจากควบคุมป้องกันการกักตุนสินค้าแล้ว ต้องดูแลเรื่องราคาสินค้าให้เป็นธรรมต่อผู้บริโภคด้วย สินค้าบางชนิดที่มีความจำเป็นของประชาชน ยังขาดแคลน และมีราคาแพงกว่าปกติ
3.โครงการเราไม่ทิ้งกันของรัฐบาล ที่ต้องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับค่าเยียวยาคนละ 5,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 6 เดือน เงินดังกล่าวประชาชนจะนำไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อการดำรงชีพ ทำให้เกิดกำลังซื้อสูงขึ้น
“รัฐบาลจะต้องเชิญ กลุ่มโรงงานผู้ผลิต กลุ่มผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก มาพูดคุยลดราคาสินค้าลง เพื่อให้มูลค่าเงินที่ประชาชนได้รับการเยียวยา สามารถซื้อของได้จำนวนมากขึ้น และยิ่งในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องพักอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ และอยู่ในภาวะประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล ทำให้ขาดรายได้ และบางคนมีเงินเก็บสำหรับใช้จ่ายในช่วงวิกฤตินี้จำนวนจำกัด ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในการลดราคาสินค้าลง ก็จะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ด้วย จึงได้ทำจดหมายร้องทุกข์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ ให้ดำเนินการแก้ไขโดยด่วนที่สุด” นายเทพไท กล่าว.
ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ