“บิ๊กตู่” สั่งมหาดไทย ผ่อนเคอร์ฟิว-เปิดร้านตัดผม ศบค.ย้ำการ์ดอย่าตก





ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) นายกรัฐมนตรีอวยพรวันสงกรานต์ให้แก่คณะกรรมการทุกคนใน ศบค. ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุข มีความตั้งใจทำหน้าที่เพื่อประเทศ ประชาชน

อัญเชิญกระแสพระราชดำรัส

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงชื่นชมผลการปฏิบัติงาน ของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ตำรวจทหาร เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุข จิตอาสา ตลอดจนภาคธุรกิจเอกชน และประชาชนที่ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ด้วยความอดทน เสียสละ ร่วมมือกันจนทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับเป็นที่น่าพอใจ พร้อมพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนหากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่ประสงค์ให้พระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเพิ่มเติม ขอให้กราบบังคมทูลได้ตลอดเวลา ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขอให้ทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2563 ว่าจากสถานการณ์ทั่วโลกคงจะประสบปัญหาต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องกำหนดนโยบายในการแก้ไข อาจจะประกอบด้วยการเยียวยาภาคส่วนต่างๆ

สั่ง มท.หามาตรการผ่อนคลาย

พล.อ.ประยุทธ์ ได้เล่าถึงการตรวจเยี่ยมการดำเนินการของภาครัฐ หน่วยงาน และประชาชนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ขอให้ทุกฝ่ายมีการประเมินภาพรวมร่วมกันในการทำงานที่ผ่านมาด้วย ว่า Best and worst case จะเป็นอย่างไร จะมีการผ่อนสั้นผ่อนยาว อนุโลม และเข้มงวดในเรื่องใดบ้าง เช่น กรณีช่างตัดผม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางร่วมกัน ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหลักในการประเมินมาตรการผ่อนคลาย และหากเกิดสถานการณ์เลวร้ายลง worst case จะทำอย่างไร ให้พิจารณาให้ครอบคลุม ทุกมิติ เชิงลึก เชิงกว้างและรอบคอบ เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง หากมีปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไข ทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ต้องมีปัญหาแต่อย่าเกิดข้อขัดแย้งกันเอง ทุกฝ่าย ทุกคนเหนื่อย แต่ขอให้อดทนการดูแล

ส่วนประเด็นเรื่องการดูแลแรงงาน ให้สำนักงานประกันสังคมดูแลแรงงานที่ขึ้นทะเบียนให้ได้รับการช่วยเหลือ และให้พิจารณาผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานว่าจะสามารถหาช่องทาง แนวทาง วิธีการ ในการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เช่น ช่วยเหลือให้ลงทะเบียนให้ครบถ้วน ถูกต้อง การจัดสรรงบประมาณให้ถูกกลุ่ม ถูกความต้องการ ความจำเป็น ส่วนงบประมาณของแต่ละกระทรวงเพื่อนำมาช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดถี่ถ้วน เพื่อช่วยเหลือเยียวยา รักษา ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมคิดแบบมีวิสัยทัศน์ เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นที่เป็นประโยชน์

ฝ่าเคอร์ฟิวลด ยอดมั่วสุมเพิ่ม

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรน่า 2019 (โควิด-19) ศบค. แถลงว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เปิดเผยตัวเลขมาตรการประจำวันด้านความมั่นคง พบว่ามีการรายงานเป็นคดีความผิดออกนอกเคหสถาน เมื่อ 12-13 เม.ย. 823 คน ลดลง 108 ราย แต่ชุมนุมมั่วสุมกัน 135 ราย เพิ่มขึ้น 79 คนที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม ทั้งนี้ มีผู้กระทำผิดตั้งแต่ 4 – 12 เม.ย. รวม 9,823 คน ออกนอกเคหสถาน 8,988 ราย แยกเป็น ดำเนินคดี 7,191 คน ตักเตือน 1,797 คน ชุมนุมมั่วสุม จำนวน 835 คน ดำเนินคดี 732 คน ตักเตือน 103 คน

บุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด 80 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการจัดส่งหน้ากากอนามัยไปให้บุคลากรทางการแพทย์นั้น วันที่ 13 เม.ย. กระจายไปยังกระทรวงสาธารณสุข 14,167,000 ล้านชิ้น อยู่ระหว่างการจัดส่งอีก 1,869,500 ชิ้น ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ ข้อมูลในวันที่ 8 เม.ย. มี 80 ราย ติดเชื้อในโรงพยาบาล มี 50 ราย ขณะที่ติดเชื้อในชุมชน 18 ราย เพราะแพทย์ก็เหมือนบุคคลทั่วไปไม่ได้ติดจากการรักษาอย่างเดียว เรื่องนี้มีความสำคัญ ถ้าติดจากผู้ป่วยต้องเข้าไปดูว่าเป็นจากอะไร เช่น อุปกรณ์ป้องกันที่น้อย เครื่องมือที่ยังพัฒนาไม่ดีเพียงพอ ต้องหาสาเหตุให้ได้ ขณะที่อีกสาเหตุ พฤติกรรมส่วนตัวก็เหมือนกับชาวบ้านทั่วๆ ไป ต้องแยกให้ได้กับสองเรื่องนี้ ถ้าเกิดขึ้นจากบริการทางการแพทย์วิธีการจัดการอีกแบบ แต่ถ้ามาจากชีวิตประจำวันการจัดการก็อีกแบบ แต่ไม่อยากให้ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้น

สธ.เตรียมข้อมูล ผ่อนมาตรการ

“การผ่อนคลายมาตรการจะเกิดขึ้น ถ้าตัวเลขต่างๆ ดี ต้องมั่นใจตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางกระทรวงเตรียมข้อมูลอยู่ แต่ยังไม่อยากให้ผ่อนคลายกันมาก เห็นตัวเลขแล้วดีใจทำตัวตามปกติ สถานการณ์ในประเทศเราล้อมรั้วดูแลภายในได้อย่างดี แต่ต่างประเทศมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นกราฟเป็นเส้นตรง สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ มีการพยากรณ์ว่าโรคนี้จะอยู่กับเรา 3-4 เดือน ถ้าพื้นที่เราเจาะเฉพาะบางพื้นที่ไม่มีการติดเชื้อและเป็นพื้นที่กว้างๆ การผ่อนคลายตามจังหวัด ตามภาค ตามพื้นที่อาจเกิดขึ้นได้ บางกิจกรรมอาจมีการผ่อนคลาย โรคที่อยู่ในร่างกายต้องมีระยะฟักตัว ถ้าผ่อนคลายวันนี้ โรคจะเกิด 5- 7 วันข้างหน้า การ์ดตกไม่ได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: