สาวเบี้ยวหนี้ กยศ.อ้างโดนกักตัวโควิดที่ญี่ปุ่น ทำครูคนค้ำถูกยึดที่ดิน แม่น้ำตาคลอไม่มีเงินใช้แทนลูก





จากกรณี นางธนวรรณ ชุมแวงวาปี อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ สถานศึกษาแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังค้ำประกันเงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ให้กับน.ส.น้ำฝน อายุ 39 ปี ลูกศิษย์ ช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ จนจบปริญญาตรีแล้ว (อ่านย้อนหลัง ครูเกษียณร่ำไห้ ช่วยค้ำกู้กยศ.ให้ลูกศิษย์ สุดท้ายเบี้ยวหนี้-ถูกยึดที่ดิน)

ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 16 เม.ย. มารดาน.ส.น้ำฝน เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางธนวรรณ มาหาที่บ้าน 2 ครั้ง ก็มาบอกว่าลูกสาวไม่ได้จ่ายเงินที่กู้มาเรียนให้กับกยศ.จนทำให้ถูกยึดที่ดิน ขอให้ตนรับผิดชอบ หาเงินประมาณ 2 แสนกว่าบาทมาให้เพื่อจะนำไปจ่ายให้กยศ. และจะได้ทำเรื่องให้ทางกรมบังคับคดีคืนที่ดินให้ แต่ตนบอกว่า ไม่มี ครูก็บอกให้เอาที่ดินที่บ้านไปจำนองนายทุนหาเงินมาจ่าย โดยจะพาตนไปหานายทุน แต่ตนบอกว่าที่ดินนี้เป็นทรัพย์สินของพ่อ-แม่ ที่ให้ลูกๆมาปลูกบ้านอยู่อาศัย และหากจะไปจำนองกู้นายทุนฯ ก็ทำไม่ได้

” ฉันไม่มีเงินจริงๆ แต่หากมีก็จะช่วยเหลือแกอยู่ ที่ผ่านมาฉันก็ได้คุยกับลูกสาวที่อยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่ หลังจากครูมาหาก็วิดีโอคอลคุยกับลูกสาว บอกว่าครูที่เขาค้ำกยศ.ให้เขามาทวงเงิน ลูกสาวก็บอกว่า เงินที่กู้ยืมมาเรียนได้ฝากให้อดีตสามีเก่าไปจ่ายให้หมดแล้ว แต่ครูบอกว่า ไม่ได้เอาไปใช้กับกยศ. ครูมาที่บ้านบอกว่าให้หามาจ่ายก่อน 1.7 แสนบาท แม่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินจากไหนมาให้ เพราะเงินก็ไม่มี ที่ดินก็เอาไปจำนองก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นชื่อแม่ ซึ่งลูกสาวก็บอกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน แล้วจะโทรถามกับครูเอง แล้วบอกให้ฉันใจเย็นๆ เพราะห่วงที่ฉันป่วยอยู่ จากโรคเบาหวาน ความดัน “

นางบุญเพียง กล่าวต่อว่า หลังจากที่เพิ่งคุยกับลูกสาว เมื่อ 2-3 วันมานี้ ลูกสาวบอกว่า ไม่ได้ทำงาน เพราะว่าไม่สบายเป็นไข้ทางโน้นเขาตรวจเจอ เลยเอาตัวไปโรงพยาบาลรักษากักตัว ก็ไม่รู้ว่าลูกจะเป็นโควิด-19 หรือเปล่า จึงไม่ได้ทำงาน และลูกสาวก็ไม่ได้ส่งเงินมาให้เป็นเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2555 ก็ไม่ได้ส่งมาจ่ายเงินกู้ กยศ. แต่ลูกก็ส่งเงินมาให้ตนหาอยู่หากิน เดือนละ 6,000 – 7,000 บาท บางเดือนก็ 10,000 บาท บางเดือนก็ 3,000 บาท แล้วแต่งานของเขา ที่ลูกสาวไปทำงานนวดแผนโบราณอยู่ที่นั่น

แม่ไม่รู้จริงๆว่า ไม่ได้จ่ายเงินให้กับทาง กยศ. เพราะคิดว่าจ่ายไปหมดแล้ว คิดว่าลูกสาวกับลูกเขยใช้หนี้ตรงนี้หมดแล้ว ก็เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ตอนนั้นแม่ก็คงบอกให้ลูกสาวเอาไปใช้หนี้ให้หมดแล้ว ซึ่งตอนที่ลูกสาวยืมเงิน ตอนนั้นแม่ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นแม่เลิกกับสามีพ่อของน้ำฝน ลูกก็อยู่กับตากับยายที่นี่ และก็มียายมีป้ามีสามีเก่าเขา และครูไปค้ำ มาตอนนี้ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้คิดมากในเรื่องนี้จริง ๆ”

 

นางบุญเพียง กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องที่ครูบอกว่า วีดีโอคอลไปแล้วลูกสาวตัดสายทิ้ง แต่พอใช้ของคนอื่นโทรไปก็รับสาย และไม่ยอมรับสายคุยกับครูนั้น เรื่องนี้ตนไม่รู้จริง ๆ ครูมาหา 2 ครั้ง บอกเรื่องนี้ตนก็รับรู้ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาให้จริง ๆ ถ้าตนมีเงินมาหรือหาได้ง่าย ๆ ก็จะหามาให้ ส่วนที่ผ่านมาที่ลูกส่งเงินมาให้ ตนก็เอามาใช้สร้างปรับปรุงบ้าน

ช่วงนั้นครูไม่ได้มาหาบอกเรื่องนี้ ถ้ารู้ตอนนั้นก็คงไม่ซ่อมแซมบ้าน คงให้ลูกจ่ายให้หมดไปแล้ว แต่นี้เราไม่รู้จริง ๆ ว่าลูกยังติดหนี้อยู่ แล้วครูไปแจ้งความลูกเราก็ไม่รู้จริง ๆ เพราะคิดว่าสามีเก่าของลูกเขาเอาเงินมาจ่ายใช้หนี้หมดไปแล้ว แล้วพอครูมาหาที่บ้านบอกว่า ที่ของเขาราคาเป็นล้านถูกยึด ตนก็แทบจะเป็นลม บอกว่าขอให้ผ่านเรื่องโรคโควิด-19 ไปก่อนได้ไหม เพราะว่าลูกอยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ทำงาน ก็ไม่มีเงินส่งมา จะเอาที่ไปจำนองก็คงไม่มีส่งถูกยึดไปแน่ ๆ

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวขอให้ นางบุญเพียงฯ วีดีโอคอลไปหา น.ส.น้ำฝน ลูกสาว เพื่อจะได้สอบถามเรื่องหนี้เงินกู้ กยศ, เพิ่มเติม แต่ น.ส.น้ำฝน ไม่รับสาย แต่ได้ส่งข้อความกลับมาหานางบุญเพียง ว่า “อยู่โรงพยาบาล รับบ่ได้”

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบริเวณที่ดินของ นางธนธรรณ ขนาด 53 ตารางวา พบว่าตั้งอยู่ในซอยใกล้กับถนนรอบเมือง ตรงข้ามสถานีขนส่งอุดรธานี แห่งที่ 2 ซึ่งที่ดินเป็นป่าต้นกระถินรกทึบ ซึ่งถือว่าเป็นที่ดิน ที่อยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และอยู่ในเมือง โดยมีป้ายติดประกาศของกรมบังคับคดีติดไว้ที่เสาแบ่งเขตที่ดิน แต่ประกาศหลุดออกไปแล้ว เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น

ล่าสุดนางธนวรรณฯ แจ้งว่า มีญาติน.ส.น้ำฝน โทรศัพท์ติดต่อมาแจ้งว่าจะหากู้ยืมเงิน นำมาจ่ายใช้หนี้ที่ น.ส.น้ำฝน ค้างจ่ายรวมดอกเบี้ยภายใน 2-3 วันนี้ โดยจะแจ้งผู้สื่อข่าวให้ทราบ เมื่อมีการจะนำเงินมาจ่ายให้หนี้ที่ค้างกับทาง กยศ.ต่อไป

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: