นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า มาตรการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจของภาครัฐ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีประชาชนลงทะเบียนสูงถึง 27.5 ล้านคน ได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 3 ล้านคน อีก 5-6 ล้านคนจะต้องขอข้อมูลเพิ่ม
นายประสงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีก 12 ล้านคนถูกปฏิเสธรับสิทธิ์ ซึ่งระบบจะเปิดให้ทบทวนสิทธิ์ใหม่อีกครั้ง ผ่านเว็บไซต์ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เช่น หากประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์รับจ้าง หากมีใบอนุญาตในการขับขี่มอเตอร์ไซค์สาธารณะ หรือขับรถแท็กซี่ แล้วมีใบขับขี่สาธารณะ สามารถนำมาใช้พิสูจน์ยืนยันตัวจนได้ รวมถึงหมอนวดแผนไทย ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณะสุข ก็สามารถได้รับสิทธิ์ในการรับเงินเยียวยาได้
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า โดยมีบางอาชีพ เช่น ค้าขาย ที่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ จึงต้องมีการตรวจสอบ โดยหากอยู่ต่างจังหวัดจะมีกระทรวงมหาดไทย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบ และส่งข่อมูลผ่านระบบไอทีเข้ามาพิจารณาอีกครั้ง หากประชาชนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการต่าง ๆ ที่กระทรวงการคลังได้ออกมานั้น สามารถติดต่อสอบถามได้จากหน่วยงานที่ท่านเป็นลูกค้าหรือสมาชิกภายใต้สังกัดการดูแลของกระทรวงได้ผ่านช่องทางออนไลน์
“ตัวอย่างปัญหาชัด ๆ ที่พบคือ ลงทะเบียนไปแล้ว ถูกพิจารณาเป็นเกษตรกร ทั้งที่ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ หรือนวดแผนไทย โดยในการตรวจสอบจะนำเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก มาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่มีอยู่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากเลขบัตรประชาชนตรงกัน ก็เท่ากับเป็นเกษตรกรตามข้อมูลที่มีในระบบ แต่หากผู้ลงทะเบียนยืนยันว่าไม่ได้มีอาชีพเกษตรกรจริง ๆ สามารถนำข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดยื่นอุทธรณ์กลับมาใหม่ในช่วงที่เปิดอุทธรณ์ในลำดับต่อไป” นายประสงค์ กล่าว
นายประสงค์ กล่าวว่า ซึ่งหลังจากนี้สิทธิ์ในการที่รัฐบาลจะมีมาตรการออกมาดูแลในส่วนของเกษตรกร ผู้ที่ได้รับการพิจารณาเป็นเกษตรกร จะไม่สามารถรับการช่วยเหลือแล้ว เพราะ 1 เลขบัตรประชาชน สามารถได้รับการช่วยเหลือ 1 ด้านเท่านั้น
นายประสงค์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ข้อมูลการลงทะเบียนทั้ง 27.5 ล้านราย คาดว่าจะสามารถตรวจสอบพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันที่ 19 เม.ย.นี้ โดยมีผู้ลงทะเบียน 6 ล้านราย ที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมไป ซึ่งมีผู้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาเพียง 1.9 ล้านราย ยังขาดผู้ที่ไม่ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามากว่า 4 ล้านราย
นายประสงค์ กล่าวต่อว่า รวมถึงมีผู้บงทะเบียนเข้ามา 6 ล้านราย ที่หลุดจากการพิจารณาไปอัตโนมัติ เพราะอายุไม่ถึง 15 ปี รวมถึงยังมีบางส่วนที่ยังมีสิทธิกรอกข้อมูลเข้ามาใหม่ได้ เพราะสาเหตุที่หลุดไปเกิดจากการกรอกข้อมูลไม่ตรงกับที่ให้ลงรายละเอียด อาทิ การใส่เพิ่มคำว่านาย นาง หรือนางสาวเข้าไป ซึ่งมีจำนวน 5-6 ล้านรายเช่นกัน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ