เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในสถานการณ์นี้เครือซีพีประกาศว่า ซีพีในทุกประเทศทั่วโลกจะไม่เลิกจ้างพนักงานออกแม้แต่คนเดียว และเราต้องดูแลพนักงานของซีพีให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อช่วยปกป้องพนักงานไม่ให้เข้าไปเผชิญความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ใช้มาตรการทำงานที่บ้าน โดยยังจ่ายเงินเดือนและรายได้เช่นเดิม
“ซีพีให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานมาก เพราะการรักษาคนของซีพีเท่ากับบริษัทรักษาพลังของบริษัทไว้คู่กัน เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้าหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย เพราะเมื่อถึงเวลานั้นประเทศต้องเดินหน้าต่อได้ทันที เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ภาคแรงงานและกำลังคนของซีพีจะเดินหน้าได้ทันที เป็นการเตรียมพร้อมในเวลานี้ของซีพีหลังวิกฤตจบลง ซึ่งซีพีใช้แนวทางนี้จนประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดหนักที่เมืองอู่ฮั่นในจีน”นายธนินท์กล่าว
ประธานอาวุโสเครือซีพี กล่าวด้วยว่า ประเมินวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ขณะนี้แตกต่างกับวิกฤตเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่เหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ครั้งนี้เป็นวิกฤตระดับโลกเกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง ผู้คนต้องกักตัวในที่อยู่อาศัย เพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อ
“สำหรับประเทศไทยส่งผลให้ธุรกิจสำคัญอย่างภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีผลกระทบทั้งระบบ ซึ่งประเทศไทยพึ่งพารายได้ด้านการท่องเที่ยวมหาศาล ดังนั้นในช่วงวิกฤตจากโควิด-19 ที่ยังมีอยู่นี้ จึงเสนอให้เตรียมแผนเชิงรุกด้านการท่องเที่ยวและส่งออกไว้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสะสมพลังไว้ และขอให้ภาคเอกชนและธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมด้านกำลังคนและภาคแรงงานไว้ หากสามารถที่จะช่วยเหลือไม่เลิกจ้างแรงงาน ทำให้ผู้คนยังมีกำลังจับจ่ายภายในประเทศได้จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะวันนี้เมื่อมืดที่สุดก็จะสว่าง ไม่มีวันที่จะมืดไปตลอดกาล ดังนั้นเมื่อสว่างแล้วต้องเตรียมตัวทำอย่างไร เช่นเดียวกับเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วจะเป็นโอกาสของประเทศไทยอย่างมาก เพราะหลังวิกฤตแล้วมีโอกาสแน่นอน”นายธนินท์กล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ