วันที่ 21 เม.ย. เดลีเมล์ รายงานความคืบหน้าการรักษาอาการป่วยของแพทย์ 2 คนที่ติดเชื้อ โควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของ ประเทศจีน ศูนย์กลางการแพร่กระจายไวรัสมรณะแห่งแรกของโลก โดยทั้งสองคนเป็นหนึ่งในกลุ่มแพทย์ที่ติดเชื้อกลุ่มแรกตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา และแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล
นพ.หลี่ ซูเฉิง แพทย์ผู้รักษา นพ.อี้ ฟาน แพทย์โรคหัวใจ และ นพ.หู เหว่ยเฝิง แพทย์ทางเดินปัสสาวะประจำโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น เพื่อนร่วมงานของ นพ.หลี่ เหวินเหลียง จักษุแพทย์ผู้ล่วงลับที่เป็นคนเปิดโปงโรคโควิด-19 เปิดเผยว่าแพทย์ทั้งสองคนตรวจพบว่ามีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกเมื่อวันที่ 18 ม.ค. จากนั้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโรคปอดเมืองอู่ฮั่น ก่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์เฉพาะทางอีก 2 แห่ง
ในกรณีของนพ.อี้ มีอาการดีขึ้นหลังรับการรักษาและต้องใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจ และปอด หรือเครื่องเอคโม นาน 39 วัน แม้ตอนนี้จะหายจากโรคโควิด-19 รวมถึงย้ายไปพักรักษาตัวต่อในแผนกผู้ป่วยปกติ แต่ยังต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกระยะ เนื่องจากร่างกายยังไม่แข็งแรง และไม่สามารถเดินได้เอง
นพ.อี้กล่าวยอมรับว่าการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ไม่ใช่แค่บอบช้ำทางกายเท่านั้น แต่ยังกระทบกับสภาพจิตใจอย่างร้ายแรง “ช่วงแรกที่ผมเริ่มรู้สึกตัว โดยเฉพาะตอนที่รับรู้อาการป่วยของตัวเอง ผมหวาดกลัวและมักจะฝันร้ายเป็นประจำ” จากนั้นอาการก็ค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายตอบสนองต่อการรักษา รวมทั้งได้ปรึกษาพูดคุยกับจิตแพทย์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนอาการของนพ.หูนั้น นพ.หลี่กล่าวว่าอาการของนพ.หูหนักกว่าน.พ.อี้ ต้องนอนพักรักษาโรคโควิด-19 เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาแล้ว 99 วัน ต้องใช้เครื่องเอคโมเกือบ 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ถึงวันที่ 22 มี.ค. กระทั่งรู้สึกตัว แต่อาการโดยรวมยังน่าวิตก โดยเฉพาะสภาพจิตใจ
“นพ.หูไม่สามารถพูดคุยตอบโต้ได้ร่วมเดือน จนเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงเริ่มสื่อสาร แต่ยังต้องอยู่ในแผนกไอซียู และอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดของแพทย์และพยาบาล”
นพ.หลี่อธิบายอีกว่าที่ผิวหนังของแพทย์ทั้งสองคนมีสีเข้มขึ้นจนเหมือนคนละคน น่าจะเป็นผลมาจากภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลก่อให้เกิดความเสียหายที่ตับ รวมถึงยาที่ใช้ในช่วงเริ่มต้นการรักษาอาจมีผลข้างเคียงทำให้สีผิวเข้มขึ้น แต่คาดว่าจะค่อยๆ กลับมาเป็นสีผิวเดิมเมื่ออาการและการทำงานของตับดีขึ้น
ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์, เดลีเมล์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ