22 เม.ย.63 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti Fake News Center) พร้อมทั้งมอบนโยบายการปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
พล.อ. ประวิตร ได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม รวมถึงการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลการดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งปฏิบัติงานร่วมกัน
จากนั้นได้เยี่ยมชมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและนิทรรศการผลการปฏิบัติงาน ซึ่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมีความพร้อมและมีประสิทธิภาพที่จะดำเนินการต่อข่าวปลอมหรือ Fake News ทุกรูปแบบ เพราะปัจจุบันมีปัญหาการใช้สื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ตที่มีการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง และการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น ทำให้มีผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เด็ก และเยาวชน ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมอันดี และสถาบันหลักของชาติด้วย
พล.อ. ประวิตร ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดยขอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแล Fake News ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และย้ำว่าต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อผู้ที่กระทำความผิดกรณีข่าวปลอม หรือ Fake News อย่างจริงจังเด็ดขาด เพื่อปกป้องประชาชน เยาวชน สังคม และประเทศชาติให้มีความปลอดภัย ไม่ตื่นตระหนก และเกิดความสงบสุขในบ้านเมืองช่วงวิกฤตโควิด-19 ขณะนี้
พร้อมให้กำลังใจการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้เสียสละ ทุ่มเทการทำงานอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง ให้บรรลุผลสำเร็จ และมีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิค-19 ด้วย ต่อไป
พล.อ. ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมกระทรวงดีอีเอส, บริษัท TOT และ สตช. ที่ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นในห้วงที่ผ่านมาด้วยดี เชื่อมั่นว่าศูนย์ฯ นี้จะเป็นหน่วยงานหลักที่เป็นที่พึ่งของประชาชนและสังคมในการควบคุม ตรวจสอบ และคัดกรองข้อมูลข่าวสาร ในโลกออนไลน์ และสื่อต่างๆ อย่างได้ผล ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ข่าวปลอม หรือ Fake News หมดไปจากสังคมไทยโดยเร็วที่สุดต่อไป
ด้าน พุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการต่อกรณีข่าวปลอมที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการผลักดันและเสนอให้มีการเพิ่มโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนของการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยตั้งเป็นกองบัญชาการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลด้านไซเบอร์ ภัยคุกคามต่างๆ ไม่ใช่แค่ Fake News เพราะการดำเนินการบางครั้งยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต้องเดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร ที่ ปอท. ซึ่งในอนาคตหากมีกองบัญชาการตรงนี้ขึ้นมาก็จะสะดวกขึ้น หากเป็นกองบัญชาการก็จะสามารถติดตามผู้กระทำผิดได้รวดเร็วและลงลึก สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ทันท่วงที บางครั้งกว่าจะตรวจสอบมีการปิดเว็บไซต์หนีไปแล้วก็มี
ปัญหาในเรื่อง Fake News Cyber ภัยคุกคามจากการแฮกข้อมูล เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมากทั่วทุกประเทศ เราจึงเห็นความสำคัญตรงนี้ หากเป็นกองบัญชาการขึ้นมา การทำงานก็จะรัดกุมรวดเร็ว พล.อ. ประวิตร ก็เห็นชอบให้นโยบาย สตช. ในการไปดูการตั้งกองบัญชาการ หรือที่เรียกว่าตำรวจไซเบอร์ เพื่อแก้ปัญหาให้ทันต่อเหตุการณ์ และท่านก็ให้กำลังใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ