หลายวันที่ผ่านมา กอช. ออกข่าวมติครม.เห็นชอบขยายกลุ่มได้รับเงินเยียวยา 5,000 ต่อเดือน เป็นกลุ่มนักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์ ต่อมาแฟนเพจต่างๆ ของภาครัฐลบโพสต์วุ่น ล่าสุด คลังแจง ข่าวไม่จริง ไม่เปิดให้ลงทะเบียน…
จากกรณีที่นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ออกข่าวประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการว่า ครม. มีมติเห็นชอบขยายจำนวนผู้ได้รับเงินเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงการคลัง ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รับจ้างทั่วไป ลูกจ้างชั่วคราว กิจการส่วนตัว ค้าขาย และนักเรียน นักศึกษา ที่ทำงานพาร์ทไทม์ จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ ทางเว็บไซต์กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และแฟนเพจต่างๆ ของภาครัฐ ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าว จนเกิดเป็นกระแสฮือฮา และทำให้นักศึกษาจำนวนมากเฝ้ารอที่จะเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน เพราะหวังจะได้รับเงินเยียวยา 5,000บาท แต่สุดท้ายแฟนเพจต่างๆ ของภาครัฐก็ลบข่าวดังกล่าวออกไป
ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงในแฟนเพจเฟซบุ๊กกองทุนการออมแห่งชาติ – กอช. ทำนองว่า สมาชิก กอช. สามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 7พ.ค.นี้ ใช่ไหม, วันนี้เข้าไปดูไม่มีช่องเปิดลงทะเบียนค่ะ..งง ซึ่งทาง กอช. ได้เข้ามาตอบคำถามว่า “สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร 0-2555-0555 ค่ะ”
ไม่มีปุ่มให้กดลงทะเบียน
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ได้สอบถามไปยัง นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถึงกรณีดังกล่าว โดยได้รับคำตอบว่า ในวันนี้(7 พ.ค.63) จะไม่มีการเปิดลงทะเบียนให้กับ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รับจ้างทั่วไป ลูกจ้างชั่วคราว กิจการส่วนตัว ค้าขาย และนักเรียน นักศึกษา ที่ทำงานพาร์ทไทม์ แต่อย่างใด
“ผมว่า กอช. น่าจะเข้าใจอะไรผิดนะครับ เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา ทาง กอช. ไม่ได้เสนออะไรเข้าไปใน ครม. นะครับ ซึ่งตอนนี้ประชาชนค่อนข้างเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก”
“ในส่วนของนักเรียน นักศึกษาที่หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาในเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันในวันนี้ ต้องอธิบายว่า ประชาชนกลุ่มนี้ เป็นผู้ได้รับผลกระทบที่เราเปิดให้ยื่นทบทวนสิทธิ์ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เรียนปริญญาโท, เรียนศึกษาผู้ใหญ่, เรียน กศน. และเป็นผู้ได้รับผลกระทบที่อยู่ในจำนวน 16 ล้านคนอยู่แล้ว ไม่ได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มแต่อย่างใด” นายลวรณ กล่าว.
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ