นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้ตั้งคณะทำงานศึกษาวิจัยรูปแบบการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะที่ตอบโจทย์กับคุณภาพผู้เรียน และ คณะทำงานศึกษารูปแบบการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นั้น คณะกรรมการทั้งสองชุดอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล รายละเอียด การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ในภาพรวมทั้งการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งแนวโน้มจะเน้นการประเมินในรูปแบบที่เน้นคุณภาพของเด็ก ซึ่งเดิมครูและบุคลากรทางการศึกษา จะต้องมีการประเมินหลายอย่าง ทั้งการประเมินเพื่อผ่านการทดลองงาน การประเมินเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน และการประเมินเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ดังนั้นจึงขอให้คณะทำงานไปดูว่าจะทำอย่างไรให้เหลือการประเมินเพียงรูปแบบเดียว โดยจะต้องไปดูการประเมินมาตรฐานวิชาชีพของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาประกอบด้วย เพื่อลดภาระครูไม่ให้มีการประเมินที่ซ้ำซ้อนมากเกินไป ให้ครูมีเวลาในการเตรียมการสอนอย่างเต็มที่
“ทุกวันนี้ ครูต้องเข้ารับการประเมินหลายอย่าง หากสามารถหาเครื่องมือการประเมินเดียวกันได้ ก็จะช่วยลดภาระ ไม่ให้ครูต้องทำงานเอกสาร ซึ่งคณะทำงานกำลังดูว่าจะใช้เครื่องมืออะไร และมีวิธีการอย่างไร โดยผมได้ให้โจทย์ไปว่า อยากให้การประเมินดังกล่าวผูกกับภาระงานของครูที่มีอยู่แล้ว เพื่อลดภาระงานของครู รวมถึงมีเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้การประเมินวิทยฐานะใหม่นี้สะท้อนถึงคุณภาพผู้เรียน และคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง รวมถึงจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับการประเมินแบบอื่น” นายอัมพรกล่าว
นายอัมพร กล่าวต่อว่า ส่วนเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา และเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะผู้บริหารสถานศึกษาใหม่นี้จะแล้วเสร็จเมื่อไรนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะมีงานหลายอย่างที่ต้องเร่งดำเนินการ ระหว่างนี้ผู้ที่มีสิทธิยังสามารถยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะได้ตามหลักเกณฑ์เดิม จนกว่าจะมีการประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่อย่างเป็นทางการ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ