พรรคพลังประชารัฐ เครียด “สภาล่ม” ซ้ำซาก ลามถึงกรรมาธิการงบประมาณ 2564 แกนนำสั่งปรับ ส.ส.ขาดประชุม ครั้งละ 1 หมื่นบาท
24 ก.ค.63 ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า ขึ้นปีที่ 2 ของรัฐบาลบิ๊กตู่ อยู่ในช่วงปั่นป่วน เมื่อผู้นำรัฐบาลกดปุ่มส่งสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งพรรคใหญ่ พรรคกลาง ที่ร่วมวงรัฐบาลผสม 20 พรรค 276 เสียง ต่างต้องการรักษาโควตา “รัฐมนตรี” ที่ตนเองถือครองอยู่ แม้กระทั่งพรรคเล็ก ที่ต้องการมีส่วนแบ่ง
เมื่อโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่เป็นไปตาม “โผ” ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่ได้สัญญาณว่าจะปรับ-ขยับได้หรือไม่
เหตุจึงเกิดที่ฐาน ส.ส. อันที่เป็นอิฐก้อนแรก และองคาพยพสำคัญในการอยู่-การไปของรัฐบาล
สภาล่มไม่เป็นท่า-ท้าทายฝ่ายบริหารเกิดขึ้น ทันทีในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ระหว่างพิจารณาวาระรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270
เป็นเหตุการณ์ “สภาล่ม” ครั้งที่ 3 หลังจาก 2 ครั้งแรกเกิดในเดือนพฤศจิกายน 2562 ระหว่างการพิจารณาญัตติด่วน เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. 2562
ขยายวงมาสู่การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 จู่ๆ พรรคฝ่ายรัฐบาล ทั้งประชาธิปัตย์ – ภูมิใจไทย ก็ไม่เข้าห้องประชุม พร้อมกับมีการสั่งนับองค์ประชุม จนองค์ประชุมไม่ครบ ทั้งที่ ฝ่ายนิติบัญญัติซีกรัฐบาลมีจำนวนคนมากกว่าฝ่ายค้าน
ทิ้งให้ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ 19 คน นั่งคาห้องประชุม โดยไม่สามารถดำเนินการประชุมต่อได้
ด้วยเหตุนี้ วิปและแกนนำพรรคพลังประชารัฐจึงออกมาตรการ “ดัดหลัง” ส.ส.ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สภาล่ม ด้วยมาตรการ “ปรับเงิน”
แกนนำพรรคพลังประชารัฐ รายหนึ่ง บอกว่า มาตรการดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมา คล้ายกับพรรคอื่น ๆ ที่มีต้องมีมาตรการในการควบคุม ส.ส.ของตนเอง เพื่อเข้มงวดให้ ส.ส.อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้หายตกหล่น แม้ว่าเสียงรัฐบาลจะโผล่พ้นน้ำ 276 เสียงแล้วก็ตาม
มาตรการของพรรคพลังประชารัฐ มีการ “ปรับเงิน” ตั้งแต่ 1 หมื่นบาท เป็นการ “ลงโทษ” ในขั้นต้น ข้อหา ขาดประชุมโดยไม่จำเป็น หรือ ไม่มาตามเวลา และจะมีบทลงโทษขั้นต่อไป หากยัง “ทำผิดซ้ำ”
เสียงสนทนากันทั่วใต้ถุน “สัปปายะสภาสถาน” ที่เซ็งแซ่คือ “เซ็นชื่อเข้าห้องประชุมแล้วหรือยัง”
กลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐ ที่มักจะออกไปอยู่นอกห้องประชุม ซุ่มสูบบุหรี่ จับกลุ่มคุยกันในซอกหลืบของสภา ต้องเน้นพื้นที่ใกล้ ๆ ห้องประชุมเท่านั้น ไม่มีใครกล้าขยับกายห่างไปจากสภาเกิน 100 เมตร เพราะจะกลับมาเข้าห้องประชุมไม่ทัน ไม่เช่นนั้นต้องควัก 1 หมื่นบาท จ่ายค่าปรับ
“ตั้งแต่มีมาตรการมายังไม่มีใครถูกปรับเกิน 1 หมื่นบาท” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ก่อนการออกมาตรการดังกล่าว จะได้เห็นภาพ ส.ส.โดดประชุม ช้อปปิ้ง ที่ห้างใกล้ ๆ สภาผู้แทน เป็นประจำสม่ำเสมอทุกวันพุธ-พฤหัสบดี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ