ศบค. กองทัพบก ระบุ ไทยยุติส่งทหารไปฝึกร่วมมิตรประเทศ หลังพบ 9 ทหารไทยติด โควิด-19 หลังกลับจากสหรัฐฯ เผยป้องกันเต็มที่แต่ก็ยังพบผู้ติดเชื้อ ด้าน ผบ.ทบ. กำชัดดูแลทหารที่กลับมาจากต่างประเทศทุกคนอย่างเคร่งครัด
วันที่ 29 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ. ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีทหารไทยจากกองร้อยทหารราบ RTA Combat Team กำลังผสมจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ติดโรคโควิด-19 รวม 9 รายจากทั้งหมด 151 นาย ภายหลังเดินทางกลับจากการฝึกผสมรหัส Lightning Forge 2020 ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
โดยระบุว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 กองทัพบกได้สั่งชะลอเรื่องการฝึกร่วมทั้งหมดเอาไว้ก่อน ยกเว้นเพียงบางส่วนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปฝึกร่วม แต่ขณะนี้กองทัพบกกำลังพิจารณาให้ชะลอการฝึกร่วมผสมทั้งหมด เพราะต้องยอมรับว่ายังการฝึกดังกล่าวยังไม่มีความปลอดภัย และถือเป็นบทเรียนที่เราต้องรักษาความปลอดภัย
ขณะนี้กำลังพลของเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ติดเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาจนกว่าจะหายดี และผลตรวจเป็นลบจึงจะอนุญาตให้กลับบ้าน ส่วนคนที่ไม่ติดเชื้อเมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วไม่มีอาการ จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
นอกจากนี้ทหารชุดดังกล่าวน่าจะได้เข้าเข้าร่วมในการฝึก ณ JRTC Fort Polk ที่รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายน – ตุลาคม 2563 โดยทาง พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกเน้นย้ำให้สอบสวนให้มีความชัดเจน และรักษากำลังพลที่ป่วยให้หายเป็นปกติ รวมถึงการรักษามาตรการไม่ให้แพร่ระบาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการกักตัวอยู่ใน State Quarantine จะต้องเคร่งครัด
ส่วนเรื่องยุทโธปกรณ์ที่นำไปฝึกร่วมผสมก่อนหน้านี้ได้ทำความสะอาดตามมาตรการป้องกันโรค และส่งคืนเข้าคลังอาวุธเรียบร้อยแล้ว ส่วนของกำลังพลที่เหลือที่กักตัวอยู่ใน State Quarantine ตอนนี้สุขภาพแข็งแรง โดยทางแพทย์ได้เตรียมสวอป เทสต์ตรวจทุกคนที่เหลืออีกครั้งในวันที่ 2 สิงหาคม 2563 เพราะเป็นห่วงว่าเชื้อโรคจะแฝงตัว
สำหรับในส่วนของการสับเปลี่ยนกำลังกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดานผลัดที่ 1 และผลัดที่ 2 ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ขณะนี้กำลังติดตามอยู่ และรับทราบว่าการป้องกันโรคของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดานผลัดที่ 1 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังไม่มีกำลังพลติดเชื้อ แต่กำลังพลผัดที่ 2 ที่จะเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันที่สูงขึ้นไปอีก และต้องมีหลักประกันที่สูงขึ้นด้วย เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงในการปฏิบัติภารกิจทางทหาร จึงต้องป้องกันสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังพลต้องปฏิบัติงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันตนเองให้มากขึ้น
โดยหลังจากนี้จะต้องดำเนินการตรวจสอบในการเพิ่มขีดความสามารถ และเครื่องมือในการป้องกัน โดยเฉพาะการปฏิบัติงานร่วมกับพลเรือนต้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ