“เทพไท”หนุนจ่ายค่าตอบแแทนอสม.เดือนละ1,500บาท ชี้จำนวนเงินสมเหตุสมผลไม่เป็นภาระด้านงบประมาณประจำปีของรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ต่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องค่าตอบแทน อสม.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า จากการที่ อสม.เป็นองค์กรจิตอาสาสมัยแรกเริ่ม ที่ก่อตั้งมาเมื่อปี 2520 และได้ทำงานในลักษณะจิตอาสามาโดยตลอด จนถึงยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2536 จัดตั้งอนุมัติให้วันที่ 20 มีนาคมเป็นวัน อสม.แห่งชาติ และได้ทำงานในรูปแบบจิตอาสา ที่ไม่มีค่าตอบแทนมาโดยตลอด จนถึงยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีนโยบายให้ค่าตอบแทนแก่ อสม.เดือนละ 500 บาทต่อคน จนถึงยุครัฐบาล คสช. ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ปรับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ1000 บาทในเดือนธันวาคม 2562 ก่อนการเลือกตั้ง3เดือน และตกเบิกค่าตอบแทนให้กับ อสม.ก่อนการเลือกตั้ง3วัน เมื่อเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 กลุ่ม อสม.ก็คือด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19จนประสบความสำเร็จ และมีรับคำชื่นชมทั้งในประเทศ และจากประชาคมโลกอย่างกว้างขวางขอได้เรียกร้องให้ปรับค่าตอบแทนของ อสม.เพิ่มขึ้นเดือนละ 500 บาทเป็น 1500 บาท และได้มีการตอบรับจากรัฐบาล ถือว่าเป็นสัญญาประชาคม แต่เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติลดค่าตอบแทนของ อสม.จาก 19 เดือน เหลือ7เดือนนั้น จึงขอถามรัฐบาลดังนี้
1.อยากทราบเหตุผลจากรัฐบาลว่าเป็นเพราะเหตุใด รัฐบาลปรับจำนวนค่าตอบแทนเหลือ7เดือน ทั้งๆที่เป็นสัญญาประชาคมที่ให้กับ อสม.จำนวน1,054,729คน ว่าจะให้19เดือน
2.การที่นายกรัฐมนตรีเปรียบเทียบค่าตอบแทนของ อสม.กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือบุคลากรด้านการแพทย์นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะ อสม.เป็นองค์กรจิตอาสา ไม่มีเงินเดือนประจำ เหมือนกับองค์กรอื่นๆ การเยียวยาค่าตอบแทนให้กับ อสม.เดือนละ 500บาท จำนวน19เดือน เป็นยอดเงิน 9500 บาท ซึ่งน้อยกว่าการเยียวยาให้กับประชาชนโดยทั่วไปที่ได้รับคนละ 15,000บาท
3.รัฐบาลมีนโยบายในการปรับค่าตอบแทนให้กับ อสม.เป็นเดือนละ 1500 บาทโดยจัดเป็นเงินประมาณประจำปีได้หรือไม่ เพราะในการหาเสียง มีพรรคการเมืองประกาศนโยบายด้วยการเพิ่มค่าตอบแทนของ อสม.เช่น พรรคพลังประชารัฐ เสนอเดือนละ 5000 บาท พรรคภูมิใจไทย เสนอเดือนละ 2500 บาท พรรคประชาธิปัตย์ เสนอเดือนละ 1200 บาท เมื่อทั้ง3พรรคมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ก็ควรทำตามนโยบายที่หาเสียงกับประชาชนไว้ การที่เสนอให้ปรับค่าตอบแทน อสม.เป็นเดือนละ 1500 บาท เป็นจำนวนเงินที่สมเหตุสมผลและไม่เป็นภาระด้านงบประมาณประจำปีของรัฐบาลแต่อย่างใด
4.เมื่อเจตนารมณ์ของ อสม.เป็นองค์กรจิตอาสา ทำงานโดยไม่หวังค่าตอบแทน จึงอยากจะให้รัฐบาลสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือในการปฎิบัติหน้าที่ของ อสม.เช่น เครื่องชั่งน้ำหนัก,เครื่องวัดความดัน,เครื่องวัดน้ำตาลเบาหวาน.กระเป๋าใส่อุปกรณ์ และชุดเครื่องแบบปฏิบัติการ ซึ่งถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ เห็นความสำคัญขององค์กร อสม.จริง ก็ต้องจัดงบประมาณสนับสนุนการทำงานของ อสม.ต่อไป
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ