นายกฯ เตรียมเปิดเวทีรับฟังความเห็นคนรุ่นใหม่ ส.ค.นี้ เตือนพูดจาเลยเถิดให้ตำรวจดำเนินการ ยืนยันไม่ได้ขู่ แต่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ยืนยันหนุนแก้ รธน. แต่ชุมนุมเรียกร้องไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวถึงกรณที่กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าเรื่องนี้ตนคิดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าทุกคนรู้ว่ากลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าตนก็จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่ต้องแก้ไข ไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับกรรมาธิการที่จะมีการหารือร่วมกัน ซึ่งเมื่อหารือร่วมกันแล้ว จากนั้นตนก็ต้องให้พรรคร่วมมาหารือร่วมกันกับพรรครัฐบาลในการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเสนอควบคู่กันไป นี่คือกลไกที่ถูกต้อง ดังนั้นขอร้องอย่าให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมากนักเลยในเวลานี้ ซึ่งเรากำลังแก้ปัญหาหลายอย่างไปด้วยกัน
นายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา โดยเตรียมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ว่าอยากกำหนดทิศทางอนาคตอย่างไร ซึ่งจะเปิดเวทีรับฟังในเดือน ส.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบเวทีพบปะหารือกัน โดยให้กระทรวงไปดำเนินการมา
ถามว่าส่วนตัวจะไปรับฟังคนรุ่นใหม่ด้วยตนเองหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆว่า ขอดูก่อน ส่วนการชุมนุมที่มีการพูดสถาบันว่าเรื่องนี้จะมีการห้ามปรามหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ปราม แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฏหมายที่มีอยู่
ส่วนมีความกังวลอะไรในการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนกังวลเรื่องเศรษฐกิจและกังวลเรื่องโควิด-19 ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนคิดว่าประชาชนทุกคนที่เป็นคนไทยก็ต้องร่วมมือกัน ในการทำให้ประเทศมีเสถียรภาพกว่าตอนนี้เพราะเศรษฐกิจจะลดการเจริญเติบโตไปอีกนานพอสมควร ส่วนเรื่องนี้จะสำคัญด้วยหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้บอกว่าอะไรสำคัญกว่า แต่ต้องให้ควบคู่กันไปได้หรือไม่ ทำให้สมดุลได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ไปหมด แล้วคนที่เดือดร้อนจะทำอย่างไรกับเขาตอบคำถามตรงนี้ให้ตนด้วย
“หากจะมีการชุมนุมก็ว่ากันไปตามกฏหมาย แต่ทุกคนต้องเครพกติกา ตามกฏหมายของกันและกัน ไม่เคยขู่่ใครทั้งสิ้น แต่เป็นห่วงที่พูดจาแล้วเลยเถิด อาจจะไม่บริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไป ที่ผ่านมารัฐบาลก็เคยเชิญบุคคลเหล่านี้มาพูดคุยแล้ว ว่าให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้ บางคนก็เลิกแต่บางคนก็ไม่เลิก บางคนก็หนักว่าเดิม ก็เป็นเรื่องของกฏหมายก็ว่ากันไป”
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ