ทร.ยันจีทูจี เรือดำน้ำไม่เก๊ ซัดจำนำข้าวต่างหากปลอม ยกโพลเนชั่นข่ม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มอบหมายให้ พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.ภราดร พวงแก้ว รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานยุทธการ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ท.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ
พล.ร.ต.อรรถพล เพชรฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ และน.อ.ธาดาวุธ ทัตพิทักษ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเหตุผลความจำเป็นในการจัดหาเรือดำน้ำ
พล.ร.ท.ประชาชาติ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ แถลงตอบโต้ กรณี ที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. เพื่อไทย ที่ออกมาโจมตีกองทัพเรือ เปิดเผยเอกสารลับการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า เป็นการพูดที่บิดเบือนข้อเท็จจริงนำไปซึ่งความแตกแยก นำมาสู่ความเกลียดชังต่อกองทัพและเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และนำมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวทางการเมือง
“ที่กล่าวหาว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เป็นสัญญาเก๊ ก็ไม่เป็นความจริง โครงการรับจำนำข้าว ที่พรรคเพื่อไทย ทำต่างหากที่เป็นจีทูจีเก๊ และไม่ถูกต้อง แต่กองทัพเรือทำการซื้อแบบจีทูจีอย่างถูกต้องโปร่งใส ขอสังคมอย่าตกเป็นเหยื่อเรื่องการเมือง การให้ข่าวของพรรคเพื่อไทย หวังผลการเมือง และเป็นการเห็นแก่ตัว”
ทั้งนี้การจัดซื้อครั้งนี้ ไม่ได้จ่ายทั้งก้อน 2.25 หมื่นล้านบาท ในคราวเดียว ปี 64 ทั้งหมด
พล.ร.อ.สิทธิพร แถลงยืนยัน งบประมาณที่ใช้ในหารจัดหาเรือดำน้ำทั้ง 3 ลำ เป็นไปตามกรอบงบประมาณที่ กองทัพเรือ ได้รับการจัดสรร ประจำปี “มิใช่งบประมาณเพิ่มเติม” และไม่ได้จ่ายในคราวเดียว ซึ่งทยอยจ่ายปีละประมาณ 3 พันล้านบาท
พล.ร.ท. เถลิงศักดิ์ ยืนยันว่า การจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำ งบ 2.25 หมื่นล้านบาท เทียบไม่ได้กับความคุ้มค่า ในการปกป้องผลประโยชน์ในทรัพยากรทางทะเลของไทยที่มีกว่า 24 ล้านล้านบาท คิดเป็นแค่ 0.093 % เท่านั้น
ขณะที่ พล.ร.ท.ธีรกุล กล่าวว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำ 2 ลำนี้ เป็นการจัดหาอีก 2 ให้ครบ 3 ลำ เป็นการทยอยจ่ายรายปี คือ ปี’63 จำนวน 3,375 ล้านบาท ปี’64 จำนวน 3,925 ล้านบาท ปี’65 จำนวน 2,640 ล้านบาท ปี’66 จำนวน 2,500 ล้านบาท ปี’67 จำนวน 3,060 ล้านบาท ปี’68 และปี’69 จำนวน 3,500 ล้านบาท รวมเป็น 22,500 ล้านบาท
เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทร.ได้คืนเงินคืนรัฐบาลก้อนแรกช่วยโควิด ผ่านพ.ร.บ. โอนงบ 3,375 ล้านบาทรวมโครงการอื่น จำนวน 4,130 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหาโควิด และได้ทำข้อตกลงกับจีนยกเอายอดปี’63 ไปทำเพิ่มงบปี’70 เพิ่ม จำนวน 3,375 ล้านบาท ตามที่ได้คืนให้รัฐบาลและโดยปีนี้ มีการกำหนดข้อตกลงในรัฐต่อรัฐภายในเดือนกันยายนนี้ คือ 3,925 ล้านบาท เป็นงบก้อนแรก
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการจัดทำงบ ทร.เป็นไปตามหลักการรอบคอบ คุ้มค่า ตระหนักดีว่าเงินทุกบาทเป็นเงินประเทศ ดังนั้นงบใช้ในกรอบของเราตามที่ได้รับมาเท่านั้น ทร.ลดการจัดหาและตัดรายจ่ายลงในการหายุทธโธปกรณ์อื่นเพื่อให้มีเรือดำน้ำครบทั้ง 3 ลำ
พล.ร.ต.อรรถพล ชี้แจงถึงกรณี ที่ถูกพาดพิง เป็นสัญญาเก๊ เป็นการลงนามที่ไม่รองรับด้วยทางกฎหมาย ส่อโมฆะ ว่า พลเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ในสมัยนั้น เป็นผู้ลงนาม ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย
ขณะที่ น.อ.ธาดาวุธ ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ยืนยัน ว่า สัญญาจีทูจี เป็นไปอย่างถูกต้อง พร้อมฉายเส้นทาง การลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1 โดย รัฐบาลจีน สั่งการให้ SASTIND มอบอำนาจให้ บริษัท CSOC ก่อนมอบอำนาจให้ Chirman of CsOC มาเซ็นสัญญา ขณะที่ ฝั่งไทย ครม. ได้อนุมัติ ให้ใช้วิธีจัดซื้อแบบ จีทูจี มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน โดย ผบ.ทร. ในสมัยนั้น ได้มอบอำนาจให้ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ในฐานะ ประธาน กจค. ไปเซ็นสัญญา
ช่วงหนึ่งโฆษกกองทัพเรือ อ้างผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชน ต่อการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของ เนชั่น ว่าสนับสนุนกองทัพเรือ 71% และยันว่า ทร. ไม่ใช่จำเลยของสังคม ขอวิงวอนให้เห็นแก่ความสุขสงบของประเทศชาติเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามี นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เข้าร่วมสังเกตการณ์ การแถลงข่าววันนี้ด้วย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ