เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ระบุถึงการชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันที่ 17 พฤศจิกายน ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มไทยภักดี กลุ่มการเมืองภาคประชาชน และกลุ่มคณะราษฎร ทั้งหมดมีเป้าหมายชุมนุมรอบรัฐสภา (เกียกกาย) ถนนสามเสน โดย 2 กลุ่มได้ยื่นแจ้งการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 1 คือ กลุ่มคณะราษฎร ซึ่งมีแกนนำคือ ไผ่ ดาวดิน ยังไม่ได้ยื่นแจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล
สำหรับ 2 กลุ่ม ซึ่งยื่นขอการชุมนุมแล้ว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเงื่อนไขการชุมนุม 5 ข้อ ห้ามใช้ป้ายหมิ่นประมาท หรือข้อความยุยง, ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมโดยใช้เส้นทางอื่นโดยไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่, ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงต้องห้ามเกินที่กฎหมายกำหนด (ระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบล), การชุมนุมจะต้องสงบ ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และการชุมนุมต้องไม่กีดขวางการจราจร โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามข้อกำหนด แม้จะแจ้งการชุมนุมแล้วหากละเมิดกฎหมายก็สามารถดำเนินคดีได้
โดยในวันพรุ่งนี้ (17 พฤศจิกายน) บริเวณถนนสามเสน หน้าอาคารรัฐสภา จะปิดการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเพื่อลดการจราจรติดขัด ส่วนการใช้กำลังตำรวจ บช.น.ได้จัดกำลังตามความเหมาะสม โดยจัดกำลังสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันผัดละ 9 กองร้อย ตามความเหมาะสม
ส่วนกรณีที่บางกลุ่มประกาศจะชุมนุมทางน้ำด้วยนั้น เบื้องต้นได้ประสานกรมเจ้าท่าซึ่งมีหน้าที่ดูแลการสัญจรไป-มาทางน้ำ ซึ่งมีมาตราการสกัดกั้นอยู่แล้ว เพื่อป้องกันการกระทบต่อการสัญจรทางน้ำและอุบัติเหตุอันตราย หากฝ่าฝืนจะผิดตามกฎบัญญัติของกรมเจ้าท่า พ.ร.บ.การจราจรทางน้ำ
นอกจากนี้ กรณีที่ กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะกินหมูกระทะ และย่างกุ้ง บนทางเท้านั้น พล.ต.ต.ปิยะระบุว่า ผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำได้ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ร.บ.การจราจรทางบก ห้ามวางสิ่งกีดขวางทางเท้าหรือที่สาธารณะ รวมทั้ง พ.ร.บ.อุตสาหกรรม เกี่ยวกับการใช้แก๊สกระป๋อง ทั้งนี้ แผนอพยพ ส.ส.และ ส.ว.รวม 550 คน หากมีการปิดล้อมรัฐสภา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีมาตรการอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ