16 พ.ย.63 – ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “รัฐวิสาหกิจร่วมใจ ไทยปลอดภัยเข้มแข็ง” ใน 12 ประเภทรางวัล จากนั้นนายกฯกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันแห่งเกียรติยศ ขอชื่นชมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่ได้ร่วมมือร่วมใจทำงานกับรัฐบาลมาตลอด โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งยากลำบากพอสมควร หลายอย่างก็มีผลกระทบต่อการทำงานรัฐวิสาหกิจ และทุกภาคส่วน เราก็ต้องแก้ปัญหา ซึ่งการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 ทุกประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาก็มีความกังวล ได้พูดคุยหารือถึงแนวปฏิบัติที่เหมาะสมร่วมกัน ประเทศไทยถือว่าโชคดีที่พวกเรา ข้าราชการ ประชาชน ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด-19 จนเป็นที่น่าพอใจ ไม่ทำให้การแพร่ระบาดไปวงกว้าง อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ประมาท เพราะต่างประเทศยังแพร่ระบาดอยู่
นายกฯกล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ บอกว่าจุดต่ำสุดเศรษฐกิจของเราได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งหลายอย่างดีขึ้นในบางกิจกรรม และปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราด้านเดียว แต่อยู่ที่ต่างประเทศด้วย เพราะเขาเดือดร้อนอยู่ ซึ่งเราต้องพัฒนาสินค้าและเรื่องต่างๆให้เข้มแข็ง วันนี้การท่องเที่ยวหลายคนอยากให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวไทยเยอะๆ แต่เขาไม่มาเพราะเขาถูกห้ามมา แต่ไม่ใช่เขาไม่มาเพราะเขารังเกียจนายกฯ ไปบอกว่าไม่มาเพราะเขาไม่ชอบนายกฯ ซึ่งไม่เกี่ยวเลย ก็ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลและกับตนด้วย เรายังเป็นประเทศที่ได้รับความชื่นชม และมีสถานภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ในเรื่องของความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่แก้ปัญหาได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจไปด้วยกัน
นายกฯ กล่าวอีกว่า การปฏิรูปการศึกษาต้องปฏิรูปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา ครู แนวทางการสอน การบริหารโรงเรียน ในส่วนของเด็กก็คือเด็ก เราก็ต้องเห็นใจและเข้าใจเขา เพราะเขาเป็นเด็กยุคใหม่ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกติกา ให้มากน้อยตามความจำเป็นไป
“ขอให้ทุกคนภูมิใจว่า รัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นรางวัลอันสูงสุดของเรา นั้นคือความสุข ทุกคนรู้ว่าเราทำเพื่อใคร ลองไปเปิดเพลง”คนดีไม่มีวันตาย” ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ เราทำดี ทำไม่ดี เราทำสุจริต ไม่สุจริต เรารู้ทั้งนั้น ก็ฝากทุกคนช่วยกันทำด้วย เพราะเราเป็นฟันเฟืองหลักในการพาประเทศไปข้างหน้า เราต้องอดทนและอดทน ช่วยแก้วิกฤติวันนี้ให้เป็นโอกาส เพราะวิกฤติสามารถเป็นโอกาสได้ทั้งนั้น อย่าทำให้โอกาสเป็นวิกฤติ หรือทำวิกฤติให้เป็นดับเบิลวิกฤติ มันไม่ใช่ เพราะจะทำให้ไปไหนไม่ได้ ซึ่งไม่มีและไม่มีใครทำคนเดียวได้”นายกฯกล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ