ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ‘วัลลภ พุกกะณะสุต’ อดีตประธานบอร์ดการบินไทย ทุจริตไม่จ่ายค่าขนสัมภาระขึ้นเครื่อง ทำให้การบินไทยสูญเสียรายได้
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาใน คดีหมายเลขดำที่ อท 187/2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ‘วัลลภ พุกกะณะสุต’ อดีตกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 โดยจำเลยเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) ใช้อำนาจโดยทุจริตสั่งการให้พนักงานบริษัทการบินไทยฯ แก้ไขน้ำหนัก เป็นการปกปิดน้ำหนักสัมภาระที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าระวางขนส่งที่เกินสิทธิ เป็นเหตุให้บริษัทการบินไทยเสียหาย
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความจริงตามฟ้องโจทก์ พิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 จำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
ทุจริตไม่จ่ายค่าขนสัมภาระขึ้นเครื่อง เมื่อปี 2552
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงปี 2552 อดีตประธานบอร์ดบริหารการบินไทยพร้อมภริยา เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น โดยถูกกล่าวหาว่า ขนสัมภาระน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม กลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายน้ำหนักที่เกิน ทำให้การบินไทยสูญเสียรายได้จำนวนมาก ต่อมาบอร์ดบริหารการบินไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้นปี 2553 มีมติสั่งปรับเงินอดีตผู้บริหารดังกล่าว ส่วนวัลลภ ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
เมื่อช่วงปี 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดวัลลภ กรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการนำกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าสิทธิขึ้นเครื่องบิน ณ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น และกรณีถูกกล่าวหาว่ารับเนื้อโกเบและผลไม้จากบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท โดยได้ส่งสำนวนคดีพร้อมรายงานความเห็นต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ