โพลเผย ปชช.73.2% มองชีวิตต้องเดินหน้าทำมาหากิน แม้โควิดกลับมา 63.1%รับกังวลถ้าล็อกดาวน์





ปชช. 73.2% มองชีวิตต้องเดินหน้าทำมาหากิน แม้โควิดกลับมา 63.1% รับกังวลถ้าล็อกดาวน์

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง โควิด รอบใหม่ กับ ราษฎร เต็มขั้น

โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง โควิด รอบใหม่ กับ ราษฎร เต็มขั้น กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,252 ตัวอย่างดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 6 – 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เมื่อถามความเห็นของกลุ่มราษฎรเต็มขั้นต่อ โควิด-19 รอบใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.2 ระบุ แม้โควิด-19 กลับมา แต่การทำมาหากินของกลุ่มราษฎรต้องเดินหน้า ทุกฝ่ายต้องยกการ์ดสูงป้องกันโควิด-19 รองลงมาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.7 ระบุ ทุกหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนต้องช่วยกันเข้มงวด ตรวจคนเข้าเมือง และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.1 ระบุ ทุกคนทั้งคนไทยและต่างชาติต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ป้องกันแพร่ระบาด ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ราษฎรส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 เห็นด้วยมากถึงมากที่สุด ต่อ มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล และร้อยละ 26.1 เห็นด้วยค่อนข้างมาก มีเพียงร้อยละ 2.0 เท่านั้นเห็นด้วยปานกลางและร้อยละ 3.2 เห็นด้วยค่อนข้างน้อยถึงไม่เห็นด้วยเลย

อย่างไรก็ตาม กลุ่มราษฎรส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.1 กลัวและกังวลมากถึงมากที่สุด ว่าจะถูกโควิด-19 รอบใหม่ ปิดเมืองล็อกดาวน์ เป็นเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ และร้อยละ 27.1 กลัวและกังวลค่อนข้างมาก ในขณะที่ ร้อยละ 3.8 กลัวและกังวลปานกลาง และร้อยละ 6.0 กลัวและกังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กลัวไม่กังวลเลย

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงความต้องการของกลุ่มราษฎรเต็มขั้น ต่อ รัฐบาลให้ ออกมาตรการยืดเวลา ขยายการผ่อนพัก ชำระหนี้ และรายจ่ายต่าง ๆ ออกไปอีก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 ต้องการมาก ถึง มากที่สุด และร้อยละ 25.8 ต้องการค่อนข้างมาก ในขณะที่ ร้อยละ 4.2 ต้องการปานกลาง และร้อยละ 4.2 ต้องการค่อนข้างน้อย ถึง ไม่เลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.2 ของกลุ่มราษฎรเต็มขั้น ต้องการรัฐบาลให้ออกมาตรการ ลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันให้ลดลง เป็นต้น

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า กลุ่มทุนใหญ่และรัฐบาลต้องใจถึงที่จะกุมหัวใจของกลุ่มราษฎรเอาไว้ให้ได้ด้วยการจัดทำ “มหกรรรม ลดแลก แจกแถม ขยายเวลา” ผ่อนปรนภาระและเยียวยาความทุกข์ยาก เดือดร้อนของราษฎรส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เพราะตอนนี้ ณ เวลานี้ กลุ่มราษฎรเกือบทั้งหมดกำลังเป็นทุกข์กับปัญหารอบตัวนานับประการมากกว่ากลุ่มคนเพียงหยิบมือของประเทศที่อยู่ได้อย่างมีความสุขทุกสถานการณ์

ผอ.ซูเปอร์โพล ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มราษฎรเต็มขั้นส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือนแต่ค่าครองชีพ ค่ากิน ค่าอยู่ในแต่ละวัน ภาระหนี้สินที่มีอยู่ทำให้ตกเป็น ทาสของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ด้วยการกำหนดราคาสินค้าบริการและระบบดอกเบี้ย กดคุณภาพชีวิตของกลุ่มราษฎรเต็มขั้นให้ต้องทุกข์ยากลำบากโงหัว เงยหน้าไม่ขึ้น จะให้ฝืนยิ้มเหมือนคนสยามเมืองยิ้มคงจะยาก ตอนนี้คนจำนวนไม่น้อยกำลังหน้าชื่น อกตรม ฝืนยิ้มอยู่ ดังนั้น กลุ่มทุนใหญ่และรัฐบาลต้องเร่งคืนความสุขให้กับกลุ่มราษฎรเต็มขั้นบ้างทำให้พวกเขาไม่ต้องประสบเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด จากโควิด-19 รอบใหม่นี้ โดยรัฐบาลลดการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่และควรเจรจาให้กลุ่มทุนใหญ่มาช่วยเหลือจุนเจือชาวบ้านบ้างเพียงเท่านี้กลุ่มราษฎรก็จะพอใจและรักประเทศไทย มากขึ้นไปอีก

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: