เอกชน เสนอรัฐบาล เพิ่มเงิน คนละครึ่ง เป็น 5 พัน ให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน หลังโควิด ระบาดอีก แนะกู้เงิน อีก 1-2 ล้านล้านบาท เพื่อความอุ่นใจ
วันที่ 3 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ว่า สิ่งที่น่ากังวลคืออาจมีคนตกงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก จากธุรกิจที่ต้องปิดกิจการ มีการล็อกดาวน์ตามคำสั่งรัฐ หรือได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คล้ายช่วงระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังอยู่ในภาวะยากลำบาก ส่อตกงานจำนวนมากอีกครั้ง
“รัฐบาลควรเร่งพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพื่อประคองสถานการณ์ อาทิ อาจเพิ่มวงเงินให้กับโครงการคนละครึ่งเฟส 2 หรือออกโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ขึ้นมาใหม่ โดยขยายวงเงินจาก 3,500 บาท เป็น 5,000 บาท ในช่วง 3 เดือน หรือเพิ่มระยะเวลาโครงการที่กำหนดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 เพื่อให้เศรษฐกิจยังขับเคลื่อนไปได้”นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่ไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ ที่อาจรุนแรงขึ้น ส่วนตัวยังคงเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 1-2 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันรัฐบาลกู้แล้ว 1 ล้านล้านบาท เพื่อความอุ่นใจ เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน อาจลุกลาม เอกชนห่วงเรื่องนี้มาตลอด การมีเงินอยู่ในมือที่มากพอเพื่อใช้แก้ปัญหาย่อมดีกว่าเงินไม่พอ ขณะที่ดอกเบี้ยในเวลานี้ค่อนข้างถูก หากกู้มาแล้วไม่ใช้ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นภาระมากนัก
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เคยคาดการณ์ช่วงเดือนธันวาคม 2563 ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะเติบโตที่ระดับ 2-4% แต่ล่าสุดจากสถานการณ์โควิดที่กลับมาระบาด กกร.จะประชุมวันที่ 6 มกราคมนี้ คาดว่าจะทบทวนและคงปรับตัวเลขลดลงกว่าเดิม ส่วนที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ระดับ 4-4.5% มองว่าไม่น่าถึง ถ้าดูจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่
ที่มา : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ